The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / เปิดใจคุยกับ “บิวกิ้น” ในวันที่แฟนคลับและพีพีคือแรงสนับสนุน
Editor

เปิดใจคุยกับ “บิวกิ้น” ในวันที่แฟนคลับและพีพีคือแรงสนับสนุน

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 23 ม.ค. 2022 02:13
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

หากจะพูดถึงนักแสดงในสังกัดนาดาว บางกอก และเป็นคู่จิ้นด้วยแล้ว คงไม่มีใครไม่นึกถึง “บิวกิ้น-พีพี” อย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุด บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ก็เพิ่งมีผลงานเพลงใหม่อย่างเพลง “I ไม่ O” ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลงานแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกทั้งโปรดิวเซอร์ และแนวเพลงที่เขาอยากจะถ่ายทอดออกมาให้ได้ติดตามฟังกัน และแน่นอนว่ากระแสความฮิตนี้ส่งผลให้ยอดรับชม MV ใน YouTube สูงถึง 2.5 ล้านวิวส์เลยทีเดียว

Contents
  • เพลงล่าสุด I ไม่ O ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
  • เพลงนี้เล่าถึงอะไร
  • เพลงนี้เป็นเพลงแนวไหน แล้วทำไมถึงทำเพลงแนวนี้
  • คิดว่าเหมือนหรือแตกต่างจากเพลงที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
  • บิวกิ้นมีส่วนร่วมอะไรกับเพลงนี้บ้าง
  • ทราบว่ามีคนมีฝีมือมาร่วมทำเพลงหลายคน มีใครบ้าง
  • ช่วงโควิด-19 แบบนี้ มีการทำงานเพลงที่ต้องคุยกับทีมงานยากมากน้อยแค่ไหน
  • ทำไมถึงส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่น
  • เนื้อเพลงท่อนไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเรามากที่สุด
  • Melody และแนวเพลงค่อนข้างเปลี่ยนไปจากที่ผ่านมา ต้องฝึกอะไรเพิ่มบ้าง
  • ในเอ็มวีเพลงนี้มีสเต็ปการเต้นด้วย ใช้เวลาฝึกฝนนานไหม
  • หลังจากปล่อยเอ็มวีออกมา คนรอบตัวรวมถึงพี่ย้งมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง
  • บิวกิ้นชอบลุคไหนในเอ็มวีมากที่สุด
  • เพลงต่อไปคาดว่าจะเป็นแนวไหน เป็นแนวที่ถนัดหรือว่าเป็นแนวที่ไม่เคยลอง
  • คาดหวังยังไงกับการกลับมาในครั้งนี้ แล้วจะมีเพลงอะไรให้ติดตามอีกบ้าง
  • ถ้าเลือกได้ เพลงต่อไปอยากจะเลือกให้ใครมาร่วมร้องเพลงด้วยไหม เพราะอะไร
  • มองอนาคตภาพตัวเองในฐานะศิลปินไว้อย่างไร
  • รู้สึกอย่างไรที่ผลงานของตัวเองติดอันดับฮิตมาโดยตลอด
  • แฟนๆ จะมีโอกาสได้เห็นบิวกิ้นร้องเพลงกับพีพีอีกไหม
  • พีพีให้กำลังใจอะไรไหม หรืออยากขอบคุณอะไรพีพีบ้างที่ช่วยโปรโมต
  • รู้สึกอย่างไรกับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
  • ความสำเร็จของแปลรักฉันฯ ครั้งนี้ มีอะไรจะบอกทั้งพีพี ทีมงาน และแฟนคลับบ้าง
  • ถ้าให้นิยามความเป็นบิวกิ้น จะนิยามว่าอย่างไร
  • ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เห็นการเติบโตของตัวเองอย่างไรบ้าง
  • ในอีก 5 ปีคิดว่าอยากจะทำอะไร และยังอยากทำงานเพลงและเป็นนักแสดงอยู่หรือเปล่า
  • ระหว่างนักแสดงกับนักร้อง คิดว่าชอบพาร์ทไหนของตัวเองมากที่สุด
  • พูดถึงแรงผลักดันจากแฟนคลับ คิดว่าสำคัญและส่งผลกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน

แน่นอนว่าการที่เขาได้รับผลตอบรับทั้งจากงานแสดง จนมาถึงงานเพลงมากมายขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นพลังของแฟนคลับและ “พีพี” กฤษฏ์ อำนวยเดชกร คนข้างตัวของบิวกิ้นที่เรียกว่าสนิทกันเป็นอย่างดี วันนี้ Modernist จะพาไปพูดคุยกับบิวกิ้นถึงเพลงใหม่ที่เขามีส่วนร่วมแทบจะทุกขั้นตอน การทำงานเพลง ความภาคภูมิใจในผลงานที่ตนเองได้รับ ตลอดจนแรงสนับสนุนจากทั้งพีพีที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวและแฟนคลับที่มีส่วนเป็นอย่างมากที่ทำให้เขาเติบโตจนถึงวันนี้

มีอะไรให้อ่านบ้างในบทความนี้?

Toggle
  • เพลงล่าสุด I ไม่ O ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร
  • เพลงนี้เล่าถึงอะไร
  • เพลงนี้เป็นเพลงแนวไหน แล้วทำไมถึงทำเพลงแนวนี้
  • คิดว่าเหมือนหรือแตกต่างจากเพลงที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
  • บิวกิ้นมีส่วนร่วมอะไรกับเพลงนี้บ้าง
  • ทราบว่ามีคนมีฝีมือมาร่วมทำเพลงหลายคน มีใครบ้าง
  • ช่วงโควิด-19 แบบนี้ มีการทำงานเพลงที่ต้องคุยกับทีมงานยากมากน้อยแค่ไหน
  • ทำไมถึงส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่น
  • เนื้อเพลงท่อนไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเรามากที่สุด
  • Melody และแนวเพลงค่อนข้างเปลี่ยนไปจากที่ผ่านมา ต้องฝึกอะไรเพิ่มบ้าง
  • ในเอ็มวีเพลงนี้มีสเต็ปการเต้นด้วย ใช้เวลาฝึกฝนนานไหม
  • หลังจากปล่อยเอ็มวีออกมา คนรอบตัวรวมถึงพี่ย้งมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง
  • บิวกิ้นชอบลุคไหนในเอ็มวีมากที่สุด
  • เพลงต่อไปคาดว่าจะเป็นแนวไหน เป็นแนวที่ถนัดหรือว่าเป็นแนวที่ไม่เคยลอง
  • คาดหวังยังไงกับการกลับมาในครั้งนี้ แล้วจะมีเพลงอะไรให้ติดตามอีกบ้าง
  • ถ้าเลือกได้ เพลงต่อไปอยากจะเลือกให้ใครมาร่วมร้องเพลงด้วยไหม เพราะอะไร
  • มองอนาคตภาพตัวเองในฐานะศิลปินไว้อย่างไร
  • รู้สึกอย่างไรที่ผลงานของตัวเองติดอันดับฮิตมาโดยตลอด
  • แฟนๆ จะมีโอกาสได้เห็นบิวกิ้นร้องเพลงกับพีพีอีกไหม
  • พีพีให้กำลังใจอะไรไหม หรืออยากขอบคุณอะไรพีพีบ้างที่ช่วยโปรโมต
  • รู้สึกอย่างไรกับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
  • ความสำเร็จของแปลรักฉันฯ ครั้งนี้ มีอะไรจะบอกทั้งพีพี ทีมงาน และแฟนคลับบ้าง
  • ถ้าให้นิยามความเป็นบิวกิ้น จะนิยามว่าอย่างไร
  • ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เห็นการเติบโตของตัวเองอย่างไรบ้าง
  • ในอีก 5 ปีคิดว่าอยากจะทำอะไร และยังอยากทำงานเพลงและเป็นนักแสดงอยู่หรือเปล่า
  • ระหว่างนักแสดงกับนักร้อง คิดว่าชอบพาร์ทไหนของตัวเองมากที่สุด
  • พูดถึงแรงผลักดันจากแฟนคลับ คิดว่าสำคัญและส่งผลกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน

เพลงล่าสุด I ไม่ O ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร

พอมันเป็นเพลงที่ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับซีรีส์ เป็นเพลงที่เผยความเป็นศิลปินเต็มตัว แล้วเหมือนกับที่หายไปตั้งแต่ก่อนในใจ ผมรู้สึกว่าตั้งแต่เราได้ไปเก็บประสบการณ์ ออกไปทำเพลงมาหลายๆ เพลง เราก็รู้สึกว่าเพลงนี้ที่เป็นตัวเรา 100 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่มีโจทย์อะไรมาครอบ เราก็รู้สึกว่าอยากจะเอาความเป็นตัวตนเราลงไปอยู่ในนั้น ซึ่งผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงโซลหรือเป็นอะไรที่ City Pop เป็นเพลงเก่าๆ 80-90 หรืออาจจะเก่าหรือใหม่กว่านั้นด้วย จริงๆ คือชอบฟังโซล พอวันที่จะทำเพลงที่เป็นเพลงของเรา เราก็อยากจะเอารสนิยมของเรา ตัวตนของเราลงไปอยู่ในเพลงนี้ด้วย

เพลงนี้เล่าถึงอะไร

ก็จะเล่าถึงความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่ไปหึงหวงคนอีกคนหนึ่งซึ่งจริงๆ แล้วเราอาจไม่ได้เป็นอะไรกัน ไอไม่โอก็คือไอไม่โอเคที่ยูอาจจะอยู่ใกล้คนอื่นหรือคนอื่นอาจจะมายุ่งกับยู หรือยูมีคนอื่นมาแย่งจีบ เหมือนเราเป็นแฟนคลับหรือติ่งเขา แล้วเราไม่ชอบให้ใครไปยุ่งกับเขา ก็ไปหึงหวงเขา

เพลงนี้เป็นเพลงแนวไหน แล้วทำไมถึงทำเพลงแนวนี้

จริงๆ มันเป็นเพลงแนวที่เรียกว่าโซลป๊อป ที่มีกลิ่นของความเป็น City Pop ด้วย ที่ทำเพลงนี้ก็เพราะเป็นคนที่ชอบการเดินดนตรีแบบหรูหรา มีความคลาสซี่ เป็นเครื่องดนตรีสด มีเครื่องเป่า เครื่องสายที่มันรู้สึกว่าเป็นเครื่องดนตรีที่ดูแพง ผมว่าอะไรแบบนี้มันฟังแล้วรู้สึกถึงความเป็นมนุษย์ ชอบดนตรีโซล ก็เลยเป็นสารตั้งต้นว่าเราอยากจะทำเพลงแบบนี้ แล้วตัวเรามีมุมไหนที่สามารถไปกับมันได้ จริงๆ มันคือเพลงป๊อปที่ดึง element อะไรพวกนี้เข้ามาอยู่ในเพลงนั้นน่ะครับ

คิดว่าเหมือนหรือแตกต่างจากเพลงที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง

จริงๆ ก็ค่อนข้างต่างในมุมที่ว่าเพลงนี้เรามีโอกาสได้ลงมาทำเองเยอะ ลงมาเรียนรู้งานเยอะ และลงมามีโอกาสได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเพลงเกือบจะทั้งหมด อีกอย่างหนึ่งคือเป็นเพลงเร็วครับ ที่จริงแล้วตัวผมเองไม่เคยทำเพลงเร็วแบบนี้มาก่อน เป็นเพลงที่ค่อนข้างมีจังหวะ มีท่าเต้น ก็ยากเหมือนกันครับ เพราะปกติเป็นคนที่ร้องเพลงช้า เวลาร้องให้มันเร่ง กระชับ ก็ไม่ค่อยถนัด ก็อาจจะใช้เวลาฝึกเยอะเหมือนกันครับ และอย่างที่บอกว่าเป็นเพลงที่เป็นคอนเทนต์ตัวเองด้วย

บิวกิ้นมีส่วนร่วมอะไรกับเพลงนี้บ้าง

จริงๆ ก็ตั้งแต่ต้นเลยครับ คือเหมือนพี่ๆ ในนาดาวเขาก็รู้สึกอยากให้เราเป็นผู้กำกับของเพลงเราเอง เราก็มีโอกาสได้เลือกโปรดิวเซอร์ที่เราอยากจะทำงานด้วย มีโอกาสได้เลือกแนวเพลงที่เราอยากจะทำ เลือกคอนเทนต์เนื้อเพลงที่เราอยากจะเล่า คนทำงานทั้งหมด รายละเอียดของเพลง เราก็มีโอกาสได้ร่วมตัดสินใจด้วย คือพี่เบล สุพลมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ แล้วเขาก็เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้การทำงานเพลงด้วย เราก็ได้มีโอกาสฝึกงานทำเพลง ก็ได้รู้งานเบื้องหลังของเพลงมากๆ เหมือนกันครับ

ทราบว่ามีคนมีฝีมือมาร่วมทำเพลงหลายคน มีใครบ้าง

คนแรกคือพี่เบล สุพล มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้หลังจากที่เป็น executive producer ของผมมาตลอด แล้วเพลงนี้พี่เขาก็ลงมาเป็นโปรดิวเซอร์เต็มตัว แล้วพี่เขาก็ให้ผมลงมาเรียนรู้และอยู่ช่วยร่วมตัดสินใจด้วย แล้วก็ได้พี่บี ETC. มาเป็นคนแต่งทำนองและเป็น arranger คู่กับพี่เมฆ MACHINA ส่วนคนเขียนเนื้อคือพี่ปิง ที่เป็นทีมเขียนเนื้อให้กับ ETC. แล้วก็ได้พี่หนึ่งมาช่วยแก้ไขเสียงให้ ช่วยร้องคอรัสให้ แล้ววันที่เราอัดเสียง พี่หนึ่งก็ช่วยดูคู่กับพี่เบลด้วย แล้วเพลงนี้ก็ส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่นที่โอรีโอสตูดิโอ เป็นสตูดิโอที่ทาง ETC. เคยใช้อยู่แล้ว เพราะเราอยากจะทำเป็น City Pop ก็เลยส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่นให้มัน authentic ไปเลย

ช่วงโควิด-19 แบบนี้ มีการทำงานเพลงที่ต้องคุยกับทีมงานยากมากน้อยแค่ไหน

ผมว่ามันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะ ก็แค่เหมือนเราไม่ได้มาเจอกัน แต่เราก็มีการคุยกันผ่านซูมหรือ call group หรือ conference call กันตลอด ผมว่ามันง่ายกว่าด้วย บางทีเราไม่ว่าง เจอเคอร์ฟิว เราก็คุยกันได้ยาวๆ เสร็จแล้วเราก็จะได้ไปทำอย่างอื่นต่อได้ จริงๆ ประชุมกันบ่อยมาก ทั้งทีมเนื้อ ทีมทำนอง ทีม arrange สำหรับผม ผมอาจจะเริ่มทำเพลงในยุคนี้ล่ะมั้ง หมายถึงว่าตั้งแต่ผมเริ่มทำเพลงกอดในใจซึ่งเป็นเพลงเดี่ยวก็เป็นการทำงานแบบนี้อยู่แล้ว คือการทำงานแบบเว้นระยะห่างกัน คุยออนไลน์ตลอด ผมเลยรู้สึกว่าเฉยๆ กับการทำงานแบบนี้ และไม่ได้รู้สึกมีปัญหาอะไรครับ

ทำไมถึงส่งไปมิกซ์ที่ญี่ปุ่น

อย่างที่บอกไปครับว่าพอเราทำโซลที่มีกลิ่นอายของความเป็น City Pop เรารู้สึกว่าการที่จะทำ City Pop แบบ authentic ไปเลย เราก็ส่งไปให้ทางญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง City Pop เขามิกซ์ไปเลย เพื่อจะได้กลับมาเป็น City Pop จริงๆ เลย

เนื้อเพลงท่อนไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเรามากที่สุด

จริงๆ ผมว่าโดยรวมมันก็มีความเป็นตัวผมสูงมาก เพราะว่าคอนเทนต์สารตั้งต้นหรือคำของเนื้อแต่ละอย่างมันก็ต้องผ่านตัวผมที่ออกความคิดเห็นหรือใส่ไอเดีย เหมือน prove ความเป็นตัวตนเราว่าใช่เราไหม ผมเลยคิดว่าเกือบจะทั้งหมดของ element ของเพลง ไม่ใช่แค่เนื้อหรือทำนองเท่านั้น ผมว่านี่ล่ะคือเทสต์หรือรสนิยมของผมแล้ว ผมรู้สึกว่าทั้งหมดมันถูก prove ผ่านตัวเราแล้ว

Melody และแนวเพลงค่อนข้างเปลี่ยนไปจากที่ผ่านมา ต้องฝึกอะไรเพิ่มบ้าง

ฝึกเพิ่มอย่างแรกก็คือร้อง จริงๆ ผมเป็นคนชอบร้องเพลงช้า เพลงเศร้า ทิ้ง Vibrato สวยๆ แต่ว่าพอมาร้องเพลงเร็วๆ มันจะยาน เราต้องไปฝึกร้องเพลงให้มันเด้ง ให้มันไดนามิค เน้นคำ มันก็จะมีรายละเอียดของเพลงที่ไม่เหมือนกับการร้องเพลงช้า อีกอย่างหนึ่งคือมูฟเมนต์ เพลงที่มีจังหวะเราต้องมีมูฟเมนต์ที่ไปกับมันด้วย ไม่งั้นก็จะกลายเป็นเรายืนแข็งอยู่ในเพลงที่เร็ว มันก็จะแปลกนิดนึง หลักๆ ก็น่าจะเป็นร้องกับเต้น อาจจะมีเรื่องของการเอนเตอร์เทนด้วยนิดหน่อย

ในเอ็มวีเพลงนี้มีสเต็ปการเต้นด้วย ใช้เวลาฝึกฝนนานไหม

ก็นานอยู่เหมือนกันครับ จริงๆ โชคดีว่าก่อนที่ทำเอ็มวีนี้ มีโอกาสได้เริ่มเรียนเต้นไปแล้วพักหนึ่ง เริ่มได้ประมาณเดือนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างเท่าไร แล้วพอยังไม่ทันไร ก็ต้องมาทำเอ็มวีตัวนี้ ก็ต้องมาเต้นอีกเกือบเดือนครับ ก็อาจจะได้แค่นั้น เพราะความสามารถพื้นฐานต่ำมาก บวกกับความยากนี้ ก็ใช้เวลาเรียนรู้นาน แต่ว่าก็จะพัฒนาไปเรื่อย ๆ แล้วกันครับ

หลังจากปล่อยเอ็มวีออกมา คนรอบตัวรวมถึงพี่ย้งมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง

ผมว่าตั้งแต่สารตั้งต้น พี่ๆนาดาวมิวสิคเขาก็เห็นมุมการเป็นศิลปินของเรา ในมุมที่ว่าอยากจะพาผมออกจากคอมฟอร์ทโซนออกไปเจอมุมอื่นๆ ซึ่งจริงๆ คือการทำเพลงเร็ว เพลงสนุก ผมว่าเท่าที่คุย เขาก็แฮปปี้นะที่วันนี้ออกมาลองทำสิ่งใหม่ ออกมา explore สิ่งใหม่ เหมือนสร้างมุมใหม่ๆ ของการเป็นศิลปินของเรา ผมก็แฮปปี้ แล้วผมเชื่อว่าพี่ย้งเขาก็รักผมมาก เพราะว่าเขาชอบแสดงออกแบบนั้นผ่านการกระทำหลายๆ อย่าง (หัวเราะ)

บิวกิ้นชอบลุคไหนในเอ็มวีมากที่สุด

ต้องบอกว่าชอบทุกลุคเลยเพราะว่ามันน่ารัก ทุกลุค ทุกเซ็ต มันก็จะเปลี่ยนท่าทางของเราไปตามนั้นด้วย มันก็จะมีที่มาที่ไปของแต่ละอัน แต่ถ้าถามว่าชอบชุดไหนมากที่สุด ชอบชุดของ Wales “Wes” Anderson ชอบชุดที่เป็นแคมปิ้ง เพราะผมว่ามันน่ารัก มีความฮึบ ๆ ดูแล้วมันน่ารัก ก็ไม่เคยได้เล่นอะไรอย่างนี้เท่าไร ก็สนุกดี ชอบชุด ชอบเซ็ตนี้

เพลงต่อไปคาดว่าจะเป็นแนวไหน เป็นแนวที่ถนัดหรือว่าเป็นแนวที่ไม่เคยลอง

ผมว่ามันก็ยังอยู่ในกรอบของความเป็นโซลนี่ล่ะครับ เพราะเราเริ่มต้นมาจากตรงนี้แล้ว แล้วผมคิดว่าน่าจะดึง element อะไรอีกหลายๆ อย่างมาอีกในเพลงถัดไป รอติดตามแล้วกันนะครับ

คาดหวังยังไงกับการกลับมาในครั้งนี้ แล้วจะมีเพลงอะไรให้ติดตามอีกบ้าง

อย่างที่บอกว่ามันคือสิ่งใหม่สำหรับเราล่ะ มันคือการกลับมาเป็นตัวเราที่เป็นรูปแบบที่เราเติบโตและมีประสบการณ์มากขึ้น ถามว่าแนวไหนก็คงจะเป็นโซลนั่นล่ะ โซลป๊อป City Pop อะไรประมาณนี้ แต่ก็ไม่แน่ในอนาคต อาจจะมี element อะไรอื่นๆ ที่มาอีกก็ได้ครับ

อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็นสิ่งใหม่สำหรับเรา เราอยากให้คนเชื่อเราและยอมรับในสิ่งที่เราทำ สำหรับผม มันเหมือนเราไม่เคยทำสิ่งนี้กับแฟนเบสของเรา พอวันหนึ่งที่เราสร้าง identity ความเป็นตัวเองออกไป เราไม่แน่ใจว่ามันจะโอเคไหม แต่ว่าพอปล่อยไปแล้วเราได้รับผลตอบรับที่ดี เราก็ดีใจที่คนเขาเปิดรับเราในการที่เราทำเพลงนี้ออกไป คนยินดีกับเพลงของเรา กับรสนิยมของเรา ความเป็นตัวตนของเรา

ถ้าเลือกได้ เพลงต่อไปอยากจะเลือกให้ใครมาร่วมร้องเพลงด้วยไหม เพราะอะไร

ถ้าเลือกได้ก็อยากจะร้องร่วมกับกับ Bruno Mars ครับ เพราะว่าชอบเพลงอัลบั้มใหม่ของเขามากเลยที่เป็นซิลต์โซนิคทำกับ Anderson .Paak ทำทั้งคู่ก็ได้นะครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาไหมนะ แต่ก็อยากจะร้องเพลงร่วมกับเขา อย่างอัลบั้มล่าสุดเขาทำโซล ไม่ได้ทำเป็นโมเดิร์นโซล แต่มีความเป็นโมทาวน์ เขาทำแล้ว arrangement ไม่ได้ดูเก่า แต่ดูออกมามันมีความร่วมสมัย ผมว่าคนทำน่ะเก่งตรงที่เอาของเก่ามาทำโดยใช้วัตถุดิบเก่ามาทำ แล้วมันไม่เก่า ผมว่าเขาเก๋ามาก

มองอนาคตภาพตัวเองในฐานะศิลปินไว้อย่างไร

ผมว่าเราก็คงพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ นะครับ ในฐานะศิลปินทำเพลง เราก็คงทำเพลงใหม่ๆ หามุมใหม่ๆ ทดลองไปเรื่อย ๆ รวมถึงงานแสดงด้วย เรายังรู้สึกว่าเราประสบการณ์ยังน้อย รู้สึกว่าอยากเป็นคนที่เก่งขึ้น เป็นคนที่ได้ลองทำอะไรหลายอย่างมากขึ้น ได้ไปขึ้นคอนเสิร์ต ทำเพลงกับคนเก่งๆ

รู้สึกอย่างไรที่ผลงานของตัวเองติดอันดับฮิตมาโดยตลอด

ก็จริงๆ ดีใจนะ ถ้าพูดกันตรงๆ เราเริ่มมาในฐานะที่เราเป็นนักแสดง วันหนึ่งที่เราเล่นซีรีส์ เล่นละคร และมีโอกาสได้มาทำงานอีกส่วนหนึ่งที่เรามีแรงบันดาลใจกับมันเหมือนกันคือการทำเพลง เราไม่แน่ใจว่าการทำเพลงของเราจะได้รับการยอมรับจากคนฟังเพลงหรือเปล่า แต่พอเพลงติดอันดับ รู้สึกประสบความสำเร็จ เรารู้สึกมีคนให้เกียรติ ให้คุณค่ากับเรา มีคนเชื่อในสิ่งที่เราทำจริงๆ  มันก็มีความสุข ผมว่านอกจากตัวเราที่มีโอกาสได้มอบความสุขให้กับคนอื่น มันกลับเป็นความสุขที่เราได้รับกลับคืนมา และมันทำให้เราอยากทำสิ่งนี้ต่อและอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ครับ

แฟนๆ จะมีโอกาสได้เห็นบิวกิ้นร้องเพลงกับพีพีอีกไหม

ผมว่ามีครับในอนาคต แต่ช่วงนี้เราก็แยกกันทำแล้วล่ะ พีพีเขาก็จะไปทำเพลงของเขาในฐานะศิลปินเดี่ยว ผมก็มาทำเพลงของผมในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่เราก็ยังรับงานด้วยกันอยู่ ถ้าร้องเพลงอีเวนต์ก็อาจจะมีโอกาสได้เห็นร้องเพลงด้วยกัน แต่ถ้าทำเพลงใหม่ ก็คิดว่ามีโอกาสนะ แต่มันขึ้นกับว่าในอนาคตมันจะมีโปรเจ็กต์หรืออะไรที่ให้เราทำด้วยกันมากกว่า มีโอกาสครับ แต่ว่ายังไม่รู้เมื่อไหร่

พีพีให้กำลังใจอะไรไหม หรืออยากขอบคุณอะไรพีพีบ้างที่ช่วยโปรโมต

พีพีให้กำลังใจตลอดครับ ผมกับพีพีเราให้กำลังใจและเราก็สนับสนุนกันตลอด วันที่ผมก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินครั้งแรก ร้องเพลงครั้งแรก พีพีก็เป็นคนที่อยู่ข้างหลังและสนับสนุนผมตลอด วันหนึ่งที่พีพีออกเพลงบ้าง เราก็แฮปปี้และภูมิใจในตัวเขามาตลอดเหมือนกัน มันเหมือนเราเรียนรู้และเติบโต สนับสนุนไปด้วยกัน ผมขอบคุณพีพีที่อยู่ด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเดินทางเรียนรู้กันมาตลอด ขอบคุณที่ช่วยโปรโมตเพลงนี้ ซึ่งผมว่าเขาทำอยู่แล้ว เราเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว

รู้สึกอย่างไรกับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

ผมว่ามันอธิบายไม่ถูกเลยนะ ผมว่ามันเร็วมาก จากการที่เราเป็นนักแสดงตัวเล็ก ๆ อยู่ที่นาดาว แล้ววันหนึ่งเราก็มีโอกาสได้ไปเล่นรักฉุดใจนายฉุกเฉิน เป็นนักแสดงสมทบ เราก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดี แล้วเราก็สนุกกับมันมากๆ แล้ว เราก็เต็มที่กับมัน แล้วเราก็ไม่คิดว่าหลังจากจบรักฉุดใจฯ เราจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ มีโอกาสได้มีชื่อเสียงมากขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้น แล้วมันก็ยังไม่พออีก มีอีกก๊อกหนึ่ง เราได้มาเล่นแปลรักฉันด้วยใจเธอ มันก็พาเรามาไกลกว่าเดิมอีกมาก ซึ่งจุดแรกเราคิดไว้ว่ามันไกลมากแล้วนะ จุดที่สองคือไกลแบบไม่เคยคิดเคยฝันน่ะครับว่าจะมาถึงจุดนี้ แล้วเล่นเป็นสมทบเรื่องนึง และเล่นเป็นนักแสดงนำเรื่องนึง และมีโอกาสได้รับรางวัลนักแสดงนำชายของทั้งคมชัดลึกและนาฏราช ผมว่ามันเกินฝันมาก

ไม่รู้สิ ผมไม่เคยคิดเลยถ้าถามย้อนไปแม้กระทั่ง 1-2 ปีที่แล้ว เราก็ยังไม่คิดว่าเรามีโอกาสได้ ในวันที่เราทำ เราแค่รู้สึกเราเต็มที่กับมัน ก็อยากจะทำงานออกมาให้ดีที่สุด อยากจะทำให้พี่ๆ ผู้ใหญ่หรือใครทุกคนในบริษัทที่เชื่อว่าเราจะทำได้ เพื่อว่าเราจะรับผิดชอบสิ่งนี้ได้ เราไม่อยากทำให้เขาผิดหวังด้วยมั้ง และเราไม่อยากจะเสียดายว่าเราไม่เต็มที่กับมัน ก็รู้สึกว่าความเต็มที่ของเราก็ไม่เสียเปล่านะ พอจบมา เราก็รู้สึกได้รับการตอบรับจากสังคม จากแฟนๆ จากสิ่งต่างๆ ที่มากมาย เรารู้สึกว่ามันดีมากเลยที่มีโอกาสได้มาทำสิ่งนี้และมีโอกาสได้เต็มที่กับมัน และอาจจะเป็นเรื่องของจังหวะด้วย แต่หลักๆ ก็คือผมดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวผมและเชื่อว่าผมจะสิ่งนี้ได้มากกว่า และผมก็ไม่มีอะไรจะตอบแทนเขาคืนได้มากไปกว่าการทำให้เต็มที่เท่านั้นเอง และรางวัลก็เป็นเหมือนโบนัสของเราล่ะครับ

ความสำเร็จของแปลรักฉันฯ ครั้งนี้ มีอะไรจะบอกทั้งพีพี ทีมงาน และแฟนคลับบ้าง

สำหรับพีพี เราก็คุยกันตลอดนะ สำหรับพีพี มันไม่ใช่แค่ซีรีส์แปลรักฯ นะครับ แต่หมายถึงหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราเข้ามาสู่การทำสิ่งนี้ด้วยกัน เราค่อยๆ มีขั้นตอนในการทำงานตรงนี้ด้วยกัน ค่อยๆ เติบโตและประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน เหมือนเดินทางไปพร้อมกันตลอด ไม่มีใครทิ้งใคร หนึ่งคือเราอาจจะไม่ได้ทิ้งกัน สองคือจังหวะหรืออะไรต่างๆ มันทำให้เราเดินทางร่วมกันมาตลอด ผมว่ามันวิเศษมากในมุมที่ว่า ก็ขอบคุณพีพีที่ยังอยู่ด้วยกัน เป็นกำลังใจและเป็นเหมือนคนในครอบครัวที่เราสนับสนุนกันมาตลอด ผมว่าถ้าไม่มีพีพี ผมคงไม่สามารถเดินมาถึงตรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ขนาดนี้

ส่วนทีมงานแปลรักฯ ก็ขอบคุณครับที่เต็มที่และทุกคนทำงานด้วยความรู้สึกที่อยากจะให้มันออกมาดีที่สุด ผมเชื่อว่าทุกๆคนที่เป็นทีมงานแปลรักฯ ทำงานนี้ด้วยความภูมิใจ ภูมิใจที่เราทำมันออกมาได้ดีที่สุด และผมก็ขอบคุณทุกคนจริงๆ ผมเชื่อว่ารางวัลทุกรางวัลที่แปลรักฯได้เป็นของทีมงานทุกๆ คน ผมเป็นเหมือนนักแสดงเบื้องหน้ามากกว่า เป็นปลายทางของการทำงาน แต่โครงสร้างตั้งแต่ต้นทาง ไม่ว่าจะบท คนที่ทำทุกรายละเอียดของซีรีส์นี้ ทุกคนคือองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็ออกมาดีที่สุด หรือแม้กระทั่งการแสดงของผมมันออกมาดี ทุกอย่างมันมีผลหมดนะ ก็ขอบคุณทุกๆ คน ทุกรางวัลมันคือความสำเร็จของทุกคนล่ะครับ

สำหรับแฟนคลับ ผมขอบคุณละกัน ผมเหมือนเป็นคนโชคดีนะที่เราเกิดมาแล้วจะมีคนมาชอบในตัวเรา มาเชื่อในตัวเรา มาเห็นคุณค่ากับตัวเรา เขารักในสิ่งที่เราเป็นและทำ ผมว่าผมโชคดีมากที่มีคนพิเศษแบบนั้น ผมขอบคุณที่ทุกๆ คนให้คุณค่ากับสิ่งที่เรากำลังทำหรือกำลังเป็น และผมคิดว่าผมจะเต็มที่และเป็นเหมือนสร้างความสุขให้กับทุกคนต่อไป ก็อยากจะบอกว่าทุกๆ คนก็เป็นเหมือนความสุขของผมที่ทำให้ผมมีแรงทำงานและเดินไปข้างหน้าต่อเหมือนกัน ผมเชื่อว่าทุกคนสนับสนุนด้วยความรู้สึกที่ดี มีความรัก ผมก็รักแฟนคลับทุกคนเหมือนกัน ถ้าเกิดเราทำอะไรให้ได้ ช่วยอะไรให้ได้ ก็จะช่วยกันเต็มที่ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา และผมคิดว่าในอนาคตเราก็จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กันตลอด

ถ้าให้นิยามความเป็นบิวกิ้น จะนิยามว่าอย่างไร

ไม่รู้ว่าเป็นคนจริงจังหรือเปล่า แต่พอทำอะไรไม่สำเร็จ มันเหมือนจะติดอยู่ในใจ มีความชอบเอาชนะตัวเองนิดนึง ชอบความท้าทาย ชอบเห็นพัฒนาการของตัวเอง ชอบทำอะไรให้สำเร็จ

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เห็นการเติบโตของตัวเองอย่างไรบ้าง

ผมว่าก็เห็นตลอดนะ หมายความว่ามันอาจจะเป็นเพราะผมมีการเดินทางที่เร็วมั้งตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดนี้ ผมว่ามันเร็วมาก มันขึ้นมาเร็วมาก เลยทำให้เราเห็นความต่างของแต่ละจุดของการเดินทาง ตั้งแต่เราไม่เคยได้ทำอะไรเลยจนเรามาเริ่มได้ทำงานโฆษณาบ้างประปราย มาทำรายการเป็นพิธีกรบ้าง หรือว่าข้ามขึ้นมาเล่นรักฉุดใจฯ จนประสบความสำเร็จ ต่อยอดให้เรามีงานต่อมาถึงงานเพลง แล้วก็มาทำแปลรักฯ ร้องเพลงเสริมความเป็นศิลปิน นักแสดง ต่อมาที่แปลรักฯ พาร์ท 2 อีกซึ่งนำทางให้เรามีโอกาสได้ไปขึ้นคอนเสิร์ตที่เมืองทองธานี ขึ้น FANTOPIA มีแฟนคลับต่างประเทศ มันก็จะมีขั้นตอนของมันน่ะ พอเราพูดถึงประเด็นไหน เราก็จะเห็นว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน มันค่อยๆ พัฒนามายังไง สำหรับผม คืออย่างที่บอกว่ามันเกินกว่าที่ผมคิดไว้มาก ทั้งพัฒนาการและสิ่งที่เราเดินทางผ่านมา ผมมองย้อนไปแล้วมันวิเศษ และไม่เคยคิดว่าเราจะมีโอกาสแบบนี้ครับ ก็ขอบคุณทุกคนครับ

ในอีก 5 ปีคิดว่าอยากจะทำอะไร และยังอยากทำงานเพลงและเป็นนักแสดงอยู่หรือเปล่า

ก็คิดว่าอีก 5 ปีก็น่าจะทำนะ อย่างงานแสดงผมจะทำก็เฉพาะงานที่ผมรู้สึกว่าผมอิน คืองานแสดง ผมว่ามันคือความเชื่อเลยนะ ถ้าเราอ่านบท ไปเจอผู้กำกับ ทีมงาน แล้วเราไม่เชื่อ เราจะไม่มีทางทำมันออกมาด้วยจิตวิญญาณ ผมว่าสิ่งสำคัญคือเราต้องเชื่องานงานนั้นก่อน และถ้าเชื่อแล้วเราจะอยากทำ แล้วจะทำมันออกมาให้ดีเอง ผมว่าสำหรับงานแสดง ตราบใดที่เรายังเจองานที่ดี เราก็ทำได้เรื่อย ๆ ส่วนงานเพลงผมคิดว่าก็จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ นะ ในอีก 5 ปี ผมก็ยังไม่หมดมุกในการทำเพลงใหม่ๆ หรอก มีเพลงหรือแนวให้ทำอีกเยอะ คิดว่าถ้ายังสนุกและยังอยากพัฒนาตัวเองในด้านนี้อยู่ ก็คงทำต่อ และมีแพลนว่าอาจจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ว่ายังดูๆ ไว้ก่อนครับ ยังไม่ได้วางแผนชัดเจนว่าจะไปเรียนตอนไหน คณะหรือประเทศอะไร แต่คิดว่าก็น่าจะต้องไปวันใดวันหนึ่ง นี่คือสำหรับวันนี้นะครับ ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนใจแล้วก็ได้ ผมว่าหลักๆ คือเราอยากจะมีความสุขมากกว่า กับสิ่งที่เราทำทุกๆอย่างมันขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจน่ะ อีก 5 ปีเราก็ยังเชื่อว่าเรายังมีแรงบันดาลใจนี้ด้วยความสุข ความสุขของเราคือสิ่งที่นำการกระทำของเรา และอาจจะทำธุรกิจนี่นั่นไปด้วย

ระหว่างนักแสดงกับนักร้อง คิดว่าชอบพาร์ทไหนของตัวเองมากที่สุด

ผมว่าการเป็นนักแสดงกับนักร้อง มันคือความสนุกคนละแบบ การเป็นนักแสดงคือความสนุกที่เราได้ไปเล่นบทที่เราเชื่อแล้วเราชอบ และมันท้าทายเราที่อยากจะเป็นให้ได้ ทำให้ได้ เชื่อมันให้ได้มากที่สุด การทำเพลงมันคืออีกอย่างหนึ่ง มันคือการที่เราจะเอาอะไรที่เป็นตัวเรามานำเสนอ เราจะเล่าผ่านมุมมองยังไงของเรา มันคือการเป็นตัวเอง การแสดงมันคือการไปเป็นคนอื่น ทั้งสองอย่างมันคือการเล่าเรื่องและการสื่อสาร แต่วิธีการไม่เหมือนกัน การแสดงเป็นเรื่องของการออกกอง ออกมาช็อตคราฟต์ เป็นมาสเตอร์พีซงานหนึ่ง แต่งานเพลงเป็นงานทำเพลง คราฟต์ ไปถ่ายเอ็มวี ไปขึ้นคอนเสิร์ต ผมว่ามันก็เป็นความสนุกคนละแบบ ส่วนอนาคตจะทำอะไรในวงการ ก็ไม่รู้นะ ถ้าเราอยากลองทำอะไร ก็คงอยากลองทำไปเรื่อย ๆ น่ะ อะไรที่มันใหม่ในเวลานั้นแล้วเราอยากทำ เราก็ทำ อันไหนเราไม่อยากทำ เราก็เลิกเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันขับเคลื่อนด้วยความสุขน่ะ ด้วยแรงบันดาลใจ ถ้าเรามีแรงบันดาลใจ ผมว่าเราทำอะไรก็ได้

พูดถึงแรงผลักดันจากแฟนคลับ คิดว่าสำคัญและส่งผลกับตัวเรามากน้อยแค่ไหน

ผมว่าสำคัญมากนะ คือจริงๆ แฟนคลับของผม ผมรู้สึกนะว่าทุกๆ คนเขามาสนับสนุนเราด้วยความรู้สึกที่เขารักเราจริงๆ และทุกๆ อย่างมันถูกแสดงออกมาผ่านการกระทำทุกอย่างที่เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยปั่นวิว การโหวต หรือแม้กระทั่งเขาเสพงานเราและชื่นชอบงานเรา มันก็คือความรักที่เขามอบให้เราแล้วนะ ทุกอย่างหรือทั้งหมด ผมว่ามันถูกขับเคลื่อนมาจากแหล่ง เดียวกัน คือความรู้สึกที่ดีต่อตัวเรา คือความชื่นชอบ ซึ่งอย่างที่บอกไปเมื่อกี้ว่าเรารู้สึกโชคดีที่เรามีโอกาสได้มีคนรักเรามากขนาดนี้ ได้เจอคนที่ชื่นชอบกับสิ่งที่เราทำหรือเป็นมากขนาดนี้ มันก็ส่งผลมากนะ มันเหมือนมีคนรอดูผลงานที่เราทำ มีคนเชื่อในสิ่งที่เราเป็น ก็อยากจะพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก อยากจะทำอะไรให้มันดีขึ้นไปอีกให้กับคนกลุ่มที่เขาคาดหวังกับตัวเราอยู่ สำหรับผมมันมีความสำคัญมาก และผมว่าให้คุณค่ากับพวกเขามากๆ เหมือนกัน

พิสูจน์อักษร: กนก อำนวยพร

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:billkini ไม่ omodernistmusic roomnadaonadao bangkokppกฤษฎ์นักแสดงนาฎราชนาดาว บางกอกนาดาว มิวสิคบิวกิ้นพีพีพุฒิพงศ์รางวัลวงการเพลงเพลงแปลรักฉันด้วยใจเธอแฟนคลับ
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article 19 กันยายน 2549 : ตำนานรัฐประหารเสียของ
Next Article เต ตะวันในวันที่ความสามารถเฉิดฉายและเป็นที่รักของแฟนคลับ
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

“ภูมิใจไทย” ตอกเสาเข็มเมืองกาญจน์ ส่ง “วิสุดา” ทายาท “ศักดิ์ดา” เข้าสภาฯ

By Srawut
Editor

Prime Video เผยโฉมฮีโร่ฝึกหัด ในซีรีส์ “Gen V” ภาคแยกสุดโหดของ The Boys

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTSOCIAL

สิ้นเจ๊เกียว สุจินดา เชิดชัย ปิดตำนานเจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย

By Srawut
Editor

จากกะเทยในเพลงไทย สู่การเคลื่อนไหวเพื่อศักดิ์ศรี LGBTQ+

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.