ไม่ต้องอารัมภบทให้เสียเวลากับวงร็อคที่ยืนอยู่บนเส้นทางดนตรีเป็น 25 ปี ต่อให้ผ่านกี่ยุคสมัย วง Big Ass ก็ยังยืดหยัดได้ในทุกยุคสมัย แม้จะมีจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในแง่การเปลี่ยนนักร้อง แต่ทุกวันนี้ตัวของ เจ๋ง Big Ass ก็ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างชัดเจนว่าเขามีดีมากแค่ไหน แน่นอนไม่มีทางที่จะแทนที่แต่เขากลับสามารถนำผ่านวงไปในเส้นทางใหม่ได้ดีมาก ๆ
อัลบั้ม “ลายนิ้วมือ” คืออัลบั้มที่ 9 ของวง นำเสนอผ่าน 10 บทเพลงที่มีรสชาติหลากหลายแต่แสนคุ้นเคย โดยลายนิ้วมือเป็นเหมือนกันยืนยันตัวตนว่าตัวเราเป็นแบบนี้กับเราจะเป็นแบบนี้ ตามที่ กบ มือกลองและนักแต่งเพลง ได้อธิบายคอนเซปท์ของอัลบั้ม แม้การทำงานในอัลบั้มนี้จะยากและนานอันเนื่องมาจากสถานการณ์ Covid – 19 แต่ท้ายที่สุดอัลบั้มก็ได้ปล่อยมาแล้ว
Track by Track
ลายนิ้วมือ
Title Track ชื่อเดียวกับอัลบั้ม โดยมีเนื้อหาที่บ่งบอกว่าตัวเรายังเป็นตัวเราเหมือนเดิมที่มีแต่ตัวเราเข้าใจ ต่อให้ไม่เหมือนใครก็ยังเป็นตัวเราที่ดีที่สุด ตามท่อนฮุค “เรายังคงเป็นเราที่เราเข้าใจ” กับดนตรีที่หนักแน่นและทะยานอย่างเดิม
เรื่องโง่ขอให้บอก
ลดความร้อนแรงแต่ยังคงความหนักแน่นในเพลงถัดไปกับแนวเพลงรักผิดหวัง ที่ต่อให้รู้ว่าคนที่เรารักไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังยอมโง่ ปิดหูปิดตารักคนนั้นเหมือนเดิม ถ้าใครชอบเพลง “ดีแต่ปาก” ก็น่าจะติดใจเพลงนี้เหมือนเดิม
มีความสุขมาก ๆ นะ
กับแฟนเก่าถ้าเรายังรู้สึกคิดถึง โหยหาถึงเขามากแค่ไหนแต่ถ้าในวันที่เขามีรักครั้งใหม่ไปแล้ว เราก็ทำได้แค่ยินดีให้กับความรักครั้งใหม่และอวยพรว่า “ให้เธอมีความสุขมาก ๆ นะ ” นี่คือคอนเซปต์เพลงนี้กับดนตรีที่ไม่ร็อคมาก แต่ติดหูและฟังง่ายแทรกด้วยเสียง Electronic โดยความพิเศษของเพลงนี้คือการได้ ปู๋-ปิยวัฒน์ มีเครือ วง HENS มาเขียนเนื้อเพลง ทำให้เนื้อหามีความร่วมสมัยและเข้าถึงง่ายมากขึ้น
เบาได้เบา
ในวันที่แย่ก็ได้แต่แหงนหน้าบอกกับโชคชะตาว่า “เบาได้เบานะ” เป็นเพลงเร็วที่เล่าถึงวันซวย ๆ ที่ไม่ว่าจะโชคชะตาหรือบ้านเมืองจะกลั่นแกล้งเราแต่ก็อยากจะขอเวลาให้หายใจในแก้ปัญหาร้อยแปดพันเก้ากันก่อน แต่ท้ายที่สุดชีวิตเราต้องผ่านไปแน่นอน
สวัสดีตอนเช้า
พักความเดือดลงมากับเพลง Acoustic กับเนื้อหาที่แสนหวาน ที่อยากมีใครสักคนให้ได้กระซิบบอกรักซ้ำ ๆ ในทุกวัน สำหรับคนมีแฟนน่าจะชอบกันแน่นอน
One Way (เพลงประกอบภาพยนตร์ Leio โคตรแย้ยักษ์)
มาในดนตรีสุดหนักแน่นและร้อนแรงกับเนื้อหาปลุกใจที่บอกว่าชีวิตเราเหมือนกับถนน One Way ที่ไม่มีทางย้อนกลับ ราวกับชีวิตคนเราที่ไม่มีเวลาให้ย้อนกลับ อยากทำอะไรก็ลงมือทำเลย พิเศษกว่านั้นคือเป็นเพลงประกอบหนังมอนสเตอร์ไทยอย่าง “Leio โคตรแย้ยักษ์” อีกด้วย
ถ้ารู้อย่างนี้
เพลงช้ากับเนื้อหากินใจ ที่อยากเตือนคนฟังว่า ไม่มีใครรู้ว่าวินาทีสุดท้ายของคนที่เราอยู่มันคือตอนไหน แต่ถ้าทำอะไรร่วมกันเพื่อเป็นความทรงจำก็ควรรีบทำดีกว่าที่มาเสียดายทีหลังแล้วมานึกเสียดายกับคำว่า “ถ้ารู้อย่างนี้ “ โดยด้านเนื้อร้องก็มีเค้าโครงจากเรื่องจริงของ กบ และ หมู 2 พี่น้องตำแหน่งมือกลองและมือกีตาร์ของวง ที่ได้สูญเสียคุณพ่อในช่วงเวลานั้นมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้
เจ็บแต่ไม่จบ
กลับมาสู่ความหนักแน่น มืดหม่น กับเนื้อหาที่บอกว่าเรายอมจบ ยอมเจ็บให้กับความรักเก่า แต่ทำไมกลายเป็นเราที่ยังพร่ำเพ้อกับคนนั้นอย่างไม่จบสิ้น โดนใจชาวร็อคใจบางแน่นอน
วันนั้นของเดือน
เพลงที่มีดนตรีสนุกกับเนื้อหาที่บอกว่าต่อให้เราจะเจออุปสรรค ปัญหาในแต่ละวัน แต่ถ้ามีเธออยู่ข้างกายก็ยังไหวอยู่แน่นอน เพลงนี้น่าจะถูกใจกันแน่นอน
เท่าไหร่ก็เท่านี้
เพลงช้า ๆ ฟีลบัลลาดปิดอัลบั้มกับเนื้อหาที่ต่อให้พยายามมากแค่ไหน ทุ่มเทลงไปเท่าไหร่ก็ไปได้เท่านี้จริง ๆ เป็นเพลงที่เลือกใช้เปียโนเป็นพระเอกที่ทำให้เพลงนี้บรรยากาศมืดหม่นและเยือกเย็นก่อนจะเข้าแบนด์เต็มตัวในช่วงเต็มเพลง
Final Thoughts
หลังจากเราฟังมาครบทั้ง 10 เพลง เราก็บอกได้เลยว่าอัลบั้ม “ลายนิ้วมือ” เป็นเครื่องยืนยันตัวตนของวงได้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งดนตรีและเนื้อหา ทั้งกลอง กีตาร์ เบส ก็ยังมีความเป็นตัววงอย่างชัดเจน ที่ฟังแล้วสามารถบอกได้ว่านี่คือวง “Big Ass” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวก็ยังยืนหยัดในเส้นทางดนตรีอย่างแข็งแรง เราเชื่อว่าอัลบั้มนี้น่าจะถูกใจใครหลายคนแน่นอน
