หากนึกถึง LGTBQ+ ผู้เปิดตัว และใช้ชีวิตในวงการบันเทิงไทยมานานนับทศวรรษ คงจะมีหลายคนนึกถึง “ซันนี่ ยูโฟร์” ผู้โด่งดังในฐานะบอยแบนด์ดัง ก่อนจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็น LGBTQ+ ผู้สร้างสีสันผ่านการเป็นนักแสดง ก่อนจะเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (18 กรกฎาคม 2565)
ซันนี่ – ญาณวรุตม์ สุทธวาส เกิดวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2515 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นสมาชิกในวงบอยแบนด์วงแรกของประเทศไทยในชื่อ U4 (ยูโฟร์) เมื่อปี พ.ศ. 2535 สังกัดค่ายคีตา เอนเตอร์เทนเมนท์ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการจับกลุ่มกันของคนมีความสามารถในการร้องเพลง ในเพลงแต่ละเพลงสมาชิกภายในวงก็ช่วยกันแต่งคำร้อง และทำนองกันทั้งหมด สมาชิกภายในวงประกอบไปด้วย นิค – นิคณภัทร อัศวะชานนท์, เคน – คมสัน สว่างไสว, ซันนี่ – ญาณวรุตม์ สุทธิวาส และ เบียร์ – ภัทรพงษ์ สุทธิพันธุ์ ก่อนจะเปลี่ยนสมาชิกเป็น จิมมี่ – ศิวกร ชุ่มชื่น แทนเบียร์ที่เสียชีวิตกะทันหันจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อปี พ.ศ. 2536 มีผลงานอัลบั้มเต็ม 3 ชุด ได้แก่ You-4 (พ.ศ. 2535), 8 ขา 4 คน (พ.ศ. 2537) และวัน U4 มีดีที่ไม่เต้น (พ.ศ. 2538) ซึ่งเป็นอัลบั้มสุดท้าย ก่อนที่อัลบั้มที่ 4 กำลังเตรียมปล่อย ค่ายคีตาถูกสั่งปิดเสียก่อนเมื่อปี พ.ศ. 2539
หลังจากวง U4 ถูกยุบไปจากการปิดตัวลงของค่ายเพลงต้นสังกัด นิค หันไปทำธุรกิจด้านโปรดักชั่น ส่วนทางจิมมี่ กับ เคน ทำธุรกิจเบื้องหลัง ส่วนซันนี่ก็ใช้ชีวิตเป็นนักร้องกลางคืนในคาเฟ่ที่รายได้ไม่เพียงพอนัก เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ซึ่งจากการทำงานตรงนั้นซันนี่มองว่าตัวเองในฐานะผู้ชาย ถ้าจะไม่มีงานอะไรเข้ามาเลย ฉันก็ยอมเป็นตัวฉันก็แล้วกัน เธอจึงปลดแอกตัวเองผ่านการไว้ผมยาวขึ้น ทาลิปสติก แต่งหน้า ทาเล็บ และขึ้นร้องเพลงบนเวทีคาเฟ่ตามเดิม ผลปรากฎว่าแขกในร้านชอบ เธอถูกจ้างให้ร้องเพลงหลายร้านขึ้น เธอจึงใช้ชีวิตในฐานะ LGBTQ+ โดยสมบูรณ์ในช่วงเวลานั้น เธอสร้างรายได้ได้ประมาณหนึ่งในการเป็นนักร้องคาเฟ่ในอีก 2 ปีถัดมา ประกอบกับช่วงเวลาเดียวกันมีรายการหนึ่งติดต่อเธอมาให้ไปออกรายการ จากเพศสภาพของเธอที่เปลี่ยนไปจากช่วงที่เป็นบอยแบนด์ดัง การไปออกรายการโทรทัศน์รายการนั้นเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2543 ของเธอจึงกลายเป็นจุดที่ทำให้สาธารณะรับรู้ถึงตัวตนที่เธอกำลังเป็นมากขึ้น
หลังจากการเปิดตัวในฐานะ LGBTQ+ ในครั้งนั้นทำให้เธอเลือกศัลยกรรมหน้าอก เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตให้เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น และทำให้เธอได้รับงานแสดงบ้างประปราย อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง “7 ประจัญบาน 2” ในปีพ.ศ. 2548, “ปล้นนะยะ 2” ในปีพ.ศ. 2555, ละครเวที “ลำซิ่งซิงเกอร์” ในปีพ.ศ. 2555, ซีรีส์ชุด “Club Friday To Be Continued ตอน มิ้นต์กับมิว” ในปีพ.ศ. 2558 และละครโทรทัศน์ “ชายไม่จริง หญิงแท้” ในปีพ.ศ. 2560 รวมถึงการกลับมา Reunion วง U4 อีก 2 ครั้งในคอนเสิร์ต “Marie France Presents : Kita Back To The Future Concert” ในปีพ.ศ. 2550 และงานมินิคอนเสิร์ต “Kita Missing You” ในปีพ.ศ. 2562
ซึ่งเอาจริงๆ ในหลายๆ รายการที่เธอไปเป็นแขกรับเชิญร่วมพูดคุยในรายการ เธอมักกล่าว่าไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นดารา หรือคนในวงการบันเทิงมากเท่าไหร่นัก เธอมักใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ทำให้ในช่วงหลังๆ มานี้เธอประกอบอาชีพทั้งขายของ รับดูดวง ร้องเพลง เพื่อหาเลี้ยงชีพเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้มีสปอตไลท์จับตลอดเวลา
ช่วงหนึ่งเธอพบว่าน้ำหนักของเธอขึ้น 25 กิโลกรัมในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้รับประทานอะไรมากมายนัก เธอจึงทราบว่าตัวเองกำลังประสบปัญหาสุขภาพด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษ รวมถึงโรคเบาหวาน จากประวัติของครอบครัวที่เป็นโรคนี้กันหมด และเนื้องอกในถุงน้ำดี จากการกินมังสวิรัตินานกว่า 15 ปี ทำให้ชีวิตของเธอในช่วงที่ผ่านมาจึงมักอยู่แต่ในที่พัก หาเงินเลี้ยงชีพด้วยการไลฟ์สดดูดวงตลอดทั้งวัน รับงานวงการบันเทิงไม่ได้จากการเดินเหินไม่สะดวกนัก
จนเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (18 กรกฎาคม 2565) อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู พบร่างซูบผอมที่ยังมีสติของซันนี่ อยู่ในสภาพเปรอะเปื้อนอุจจาระสุนัข-แมว ภายในอาคารศรีวราการ์เดน ตึก 2 ทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. ญาตินำตัวไปล้างความสะอาด ก่อนจะย้ายร่างของเธอลงมาด้านล่างคอนโด เพื่อเตรียมขึ้นรถพยาบาล หลังจากนำตัวขึ้นรถได้ไม่นาน เธอก็เกิดภาวะช็อค เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เธอเสียชีวิตอย่างสงบในเวลาต่อมา ซึ่งหลังจากผู้คนในวงการบันเทิงทราบข่าว ก็ร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของศิลปินคนแรกๆ ของไทยที่กล้าเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของตนสู่สาธารณะ และทำให้ผู้คนในวงการบันเทิงกล้าเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของตนมากยิ่งขึ้น
REF: Wikipedia, Thaipost, Sanook, KomChadLuek Online, รายการแฉ via GMM25Thailand, รายการคนดังนั่งเคลียร์ via thaich2, รายการยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ via 9MCOTHD 30, รายการข่าวใส่ไข่ via Thairath Online
IMAGE: KPN AWARD
