The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / SOCIAL / พื้นที่สัก “สิทธิ” Gentrification กับวิถีคนเมืองที่เปลี่ยนไป
SOCIAL

พื้นที่สัก “สิทธิ” Gentrification กับวิถีคนเมืองที่เปลี่ยนไป

adisak.mha
Last updated: 23 ก.ย. 2023 16:07
adisak.mha
Share
SHARE

“อยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป็อป”

คำพูดจิกกัดสมัยเรา (ผู้เขียน) เรียนมัธยมต้นดังขึ้นในหัวเมื่อเหยียบย่างไปยังพื้นที่ใดก็ตามที่อุดมไปด้วยตึกสูง ร้านกาแฟหน้าตาดูดีหลายสิบร้านผุดเป็นดอกเห็ด ไม่พักต้องพูดถึงร้านหม่าล่าและอื่น ๆ มากมายที่เกิดใหม่บนถนนแห่งอาหารเส้นเดิมตั้งแต่พ่อแม่เรายังวัยรุ่น พลันคิดว่าชีวิตมันต้องป็อปแค่ไหนถึงจะอยู่ในเมืองนี้ได้รอด ลำพังข้าวตามสั่งจานละ 60 บาทขึ้น น้ำแก้วละร้อยบาท++ ให้กินมื้อละแพง ๆ บ่อยครั้งก็คงไม่ไหว ใครจะเลี้ยงข้าวก็แสนจะเกรงใจ หยาดเหงื่อแรงงานหมดกับค่ากินกันไปเท่าไหร่ ยังอุตส่าห์มีน้ำใจให้กัน แถมร้านเหล่านี้คนยังต่อคิวมหาศาลอีก

เราเดินออกจากพื้นที่แถวนั้นไปด้วยความรู้สึกว่า ที่แห่งนี้เปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน

ไม่นาน เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข่าว สายตาเหลือบไปเห็นโครงการมิกซ์ยูสเกิดใหม่ใกล้จุดที่กำลังยืน แต่เอะใจอีกที ที่ตั้งโครงการมีข้อพิพาทว่าด้วย “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” สถานที่ที่แทบจะเป็นที่สุดท้ายที่บอกว่ารอบมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เคยร่ำเรียนมาเคยมีชุมชนอยู่ ที่แห่งนี้เองที่เราไปของาน ขอความรักที่ดี และพาเพื่อนไปเยียวยาใจในวันที่ไม่รู้จะพึ่งพาสิ่งใด

ไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ – ที่หมายถึงเมืองหลวง – และที่หมายถึงพื้นที่เมือง จะเปลี่ยนแปลงเร็วไปถึงไหน

แม้จะเล่ามาราวกับเป็นเรื่องแต่ง แต่การเปลี่ยนแปลงเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องจริง ถ้าคุณลองสังเกตพื้นที่ที่คุณอยู่ จะพบว่ามีสถานที่ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายในพื้นที่นั้น ๆ เช่น เดิมเป็นร้านโชห่วย แต่ตอนนี้กลายเป็นคาเฟ่ หรือเดิมเคยเป็นบ้านคน มาวันนี้กลายเป็นคลินิกศัลยกรรมไปแล้ว แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม ให้สังเกตว่า ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นจากคนที่มีทุนทรัพย์ มีการศึกษา และเข้ามาแทนที่ผู้อยู่อาศัยเดิม

ความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เรียกว่า “Gentrification”

ผลจากการทำสิ่งเหล่านี้ คือราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น และการขับคนที่อยู่อาศัยเดิมออกไป ซึ่งก็หนีไม่พ้น “คนจน” ที่จะต้องโบกมือลาบ้านของตัวเองออกไป สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อนายทุนที่ดินได้ที่มาแล้วจะเอามาทำอะไรต่อ ยิ่งเป็นที่ดินในเมืองด้วยแล้วยิ่งน่าสนใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะสัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์ของคนอย่างไรบ้าง แล้วคนทั่วไปอย่างเรา ๆ มีสิทธิไหมคะ เงินไม่ค่อยจะมี แต่มีชีวิตนะ

1 – ที่อยู่

เพราะเมืองขยายตัวทุกวัน ที่อยู่ก็แทบจะไม่พออยู่กันแล้ว การได้ที่ดินไปสร้างที่อยู่อาศัยนั้นจึงเข้ามาตอบโจทย์การทำธุรกิจอย่างชัดเจน แต่ว่าที่อยู่อาศัยในยุคนี้ไม่ได้เป็นแค่บ้านอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องสะดวกสบายด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นจาก Gentrification คือโครงการ “มิกซ์ยูส” (Mix-used) ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งมักเป็นห้างสรรพสินค้าเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น ‘สามย่าน มิตรทาวน์’ ห้างซึ่งมีโรงแรมและคอนโดมีเนียมรวมอยู่ในโครงการด้วย

แน่นอนว่าแผนปรับปรุงที่ดินเป็นที่อยู่อาศัยย่อมไล่รื้อคนที่อยู่อาศัยเดิมออกไป ซึ่งเดิมพื้นที่สามย่านมิตรทาวน์เคยเป็น “ตลาดสามย่าน” มาก่อน ก่อนที่จะโยกย้ายไปอยู่ตำแหน่งปัจจุบัน ดังนั้น การแทนที่ที่อยู่อาศัยด้วยที่อยู่อาศัยอีกแบบหนึ่งจึงอาจจะทำให้เห็นภูมิทัศน์ของเมืองที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเป็นพื้นที่ชุมชน ปรับเปลี่ยนสู่การรองรับนิสิตนักศึกษาที่มีกำลังทรัพย์มากพอต่อการพักอาศัยในที่อยู่ใหม่ ที่ไม่ปะปนกับคนอื่น ทั้งที่ที่จริงแล้วการมีที่พักรองรับนักศึกษาจำเป็นต้องเป็นสวัสดิการมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งรองรับผู้อยู่อาศัยที่เป็นวัยทำงานที่ทำงานใกล้เคียงกับละแวกนั้น ทำให้พื้นที่แห่งนี้รองรับกลุ่มคนกลุ่มใหม่ที่มาอาศัยที่นี่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงนี้จึงนำไปสู่การปรับเปลี่ยนสู่ความเป็น “เมือง” ด้ว

ไม่เพียงแต่ย่านสามย่านเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายย่านที่จะปรากฏโครงการมิกซ์ยูสเช่นนี้เพิ่มขึ้น ทั้งในย่านเมืองเก่า และย่านเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งบอกได้เลยว่านี่คือมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เอื้อมถึงที่อยู่อาศัยแบบนี้

2 – ที่กิน

นอกเหนือจากที่อยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพคือการ “กิน”

อาหารเป็นเครื่องบ่งบอกรสนิยมของคนที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่ง การที่เราจะกินอะไรสักอย่างบ่งบอกได้ถึงทั้งความสัมพันธ์กับผู้ร่วมโต๊ะ ความชอบของตน วิธีการกินต่าง ๆ อย่างชัดเจน รวมไปถึง “เทรนด์” การกินด้วย

และเมื่อพูดถึงเทรนด์แล้ว เม็ดเงินส่งผลถึง “เทรนด์” การกินอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าถ้าร้านแบบไหนดัง ปัง แล้วล่ะก็ เตรียมกอบโกยเงินไม่หวาดไหวเลยทีเดียว และนั่นนำไปสู่เทรนด์การเปิดร้านอาหารที่คนนิยมจำนวนมาก ในย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านและดึงดูดนักท่องเที่ยว

หนึ่งในนั้นคือ “ถนนบรรทัดทอง” ถนนที่มีทั้งประชากรที่เป็นชุมชนเดิม นิสิตนักศึกษา คนทำงานละแวกใกล้เคียง ตลอดจนนักท่องเที่ยวและนักชิมที่ต่างก็รู้ว่าบรรทัดทองอุดมไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ และหลากหลาย ตอบคำถามแสนน่าเบื่ออย่าง “วันนี้กินอะไรดี” ได้อย่างตรงจุด เหตุนี้เองที่ทำให้บรรทัดทองคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา

ทว่าในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นบนถนนเส้นนี้คือความเปลี่ยนแปลงของร้านอาหารที่เกิดขึ้นบนถนนสายนี้ ซึ่งแม้จะมีร้านใหม่ ๆ มากมาย แต่ร้านที่เพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษคือ “ร้านหม่าล่าสายพาน”

เช่นเดียวกับย่านอื่น ๆ ที่อย่างน้อยจะต้องมีร้านหม่าล่าผุดขึ้นมาสักร้านหนึ่ง เพราะต้องยอมรับว่าโจทย์สำคัญที่ร้านหม่าล่าเหล่านี้ตอบได้คือ กินได้ทั้ง ‘อิ่มเดี่ยว’ และ ‘เป็นกลุ่ม’ ทว่าการที่ร้านหม่าล่าเพิ่มจำนวนมากขนาดนี้สัมพันธ์กับการเข้ามาของทุนจีนในไทยอย่างมีนัยสำคัญ หลายคนอาจจะจำคอนเทนต์ของนักท่องเที่ยวจีนคนหนึ่งที่กล่าวถึงการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ที่เหมือนกับอยู่ “บ้าน” ของตัวเองได้ สิ่งนี้เองที่เป็นที่กังวลว่าท้ายที่สุดทุนจีนจะเข้ามาครอบงำ ผ่านการซื้อที่ดินและลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ โดยมีธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งในนั้น

Gentrification ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่เฉพาะร้านอาหารต่างสัญชาติเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจอาหารอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการกว้านซื้อที่ดินในลักษณะเดียวกันอีกด้วย

3 – ที่เที่ยว (?)

ใครสักคนเคยบอกเราว่า เมืองแห่งนี้ขาดพื้นที่ให้คนได้ตกหลุมรักกัน

คิดตามแล้วก็เป็นความจริงไม่หยอก เพราะนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะไปเดินตกหลุมรักกันที่ไหน ถ้าตกหลุมถนนก็ว่าไปอย่าง มีให้เห็นถมไป (ช่วงโฆษณา: จริง ๆ เคยพูดถึงเรื่องนี้ไปบ้างแล้ว ย้อนอ่านเหตุผลที่เคยเขียนไว้แล้วได้ ที่นี่) 

เราคงไม่กล่าวซ้ำว่าการมีพื้นที่สาธารณะมีผลต่อความสัมพันธ์ของผู้คนแค่ไหน เพราะจริง ๆ แล้วหลายพื้นที่ที่ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่สาธารณะมันไม่เป็นสาธารณะจริง ๆ น่ะสิ ซึ่งเราอาจเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น Pseudo-public space ที่แปลอย่างง่าย ๆ ว่า “พื้นที่สาธารณะเทียม”

พื้นที่สาธารณะเทียมมีลักษณะสำคัญคือ อยู่ในพื้นที่เปิด แต่พื้นที่เปิดนั้นเป็นของกลุ่มทุนหรือนิติบุคคล ถ้าลองนึกอย่างเร็ว ๆ อาจจะเห็นภาพของสวนสาธารณะในห้างสรรพสินค้าชัดมากกว่าอย่างอื่น ซึ่งพื้นที่จำพวกนี้อาจจะจำเป็นต้องเสียเงินเข้าใช้งาน หรือมีเงื่อนไขในการเข้าใช้ด้วย เช่น Co-working Space ที่มีกฎเกณฑ์การเข้าใช้งานอย่างการสมัครสมาชิก หรือการเสียเงินซื้อเครื่องดื่มเพื่อเข้าไปทำงาน แลกกับสัญญาณไวไฟ เป็นต้น

มองเผิน ๆ แล้วพื้นที่เหล่านี้เข้ามาตอบโจทย์คนเมืองที่ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน และปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอาจหลีกเลี่ยงพื้นที่แบบนี้ไม่ได้ แต่เราคงต้องยอมรับว่าการเข้ามาของพื้นที่แบบนี้แบ่งแยกคนแต่ละชนชั้นออกจากกัน แนนซี่ เฟรเซอร์ นักทฤษฎีวิพากษ์และเฟมินิสต์เสนอว่า พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงระบอบประชาธิปไตยที่แข็งแรง แต่ขณะเดียวกัน พื้นที่สาธารณะเทียมที่เกิดขึ้นแบ่งแยกคนผ่านชนชั้นทางเศรษฐกิจ ด้วยเหตุผลที่ง่ายที่สุดคือพื้นที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นของทุกคน ผ่านเงื่อนไขการเข้าใช้งาน ถ้าถามเช็กให้ง่ายกว่านั้นคือ เคยไปที่ไหนแล้วรู้สึกว่าตัวเองตัวลีบเล็กลง จากเป็นคนธรรมดา แต่งตัวก็ดูดี อยู่ดี ๆ กลายเป็น “หนูจน” ขึ้นมาหรือเปล่า

พื้นที่สาธารณะยังหมายถึงพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนด้วย กรณีของ “ศาลเจ้าแม่ทับทิม สะพานเหลือง” เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีที่สรุปกระบวนการ Gentrification อย่างชัดเจน แม้การต่อสู้ระหว่างศาลเจ้าแม่ทับทิมและสำนักงานทรัพย์สินแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะดำเนินมาถึงคำตัดสินของศาลปกครองแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมจะไม่สามารถอยู่บนพื้นที่ตั้งเดิมได้ นี่อาจทำให้สังคมเสียโอกาสการมีพื้นที่เรียนรู้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชุมชนไปเลยก็ได้ แถมวิถีของศาลเจ้าสัมพันธ์กับชุมชนอย่างแยกกันไม่ออก ประเพณีล่าสุดอย่าง “เทศกาลทิ้งกระจาด” หรือที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่าง “เทศกาลไหว้พระจันทร์” ทำให้ผู้คนและศาลเจ้าเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจนด้วยวิถีความเชื่อด้วย

มาถึงตรงนี้ คำว่า “อยู่เมืองดัดจริต ชีวิตต้องป็อป” ดังขึ้นมาในหัวซ้ำอีกครั้ง เพราะการมีพื้นที่สาธารณะอย่างแท้จริงในเมืองสมัยใหม่อาจจะไม่ได้ช่วยให้แค่คนมีพื้นที่จะตกหลุมรักมากขึ้น แต่ยังรวมไปถึงการมีพื้นที่ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กันในสังคมมากยิ่งขึ้น เมืองดัดจริตที่เราใช้ชีวิตกันอยู่มีผลทำให้เราสนใจเพียงแต่เราในฐานะปัจเจก มีไลฟ์สไตล์ที่เป็นแม่พิมพ์จากระบบทุนนิยมที่ครอบงำเรา กระเสือกกระสนให้วิ่งไล่ไขว่คว้าจนหลงลืมว่าสิ่งที่ชีวิตต้องการคืออะไรกันแน่

แต่เวลาเดินไปไม่หวนคืน ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นไม่หยุดยั้ง ชีวิตในเมืองเช่นนี้อาจทำให้เรายอมรับและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ทั้งความสวยงามและความแห้งแล้ง ทั้งชีวิตของเมืองและชีวิตของเรา

เพียงแต่ขอให้มีสัก “สิทธิ” บนพื้นที่ที่เป็นที่ของเราบ้าง เพื่อมีสิทธิที่จะเป็นเรา แบบเรา ได้อย่างเต็มที่ ไม่ได้ไหลไปตามเม็ดเงินหรือกระแสที่ท่วมท้นเข้ามา

ถึงเมื่อนั้น ชีวิตก็คงไม่ต้อง “ป็อป” ก็ได้

ขอแค่ “รอด” ก็พอ

แหล่งอ้างอิง : nationalgeographic / theguardian / theguardian / tci-thaijo / matichonweekly 1

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:CreativityGentrificationlifestylemixusedpublicspaceThe Modernistศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลืองสามย่านสามย่านาสิทธิ
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article “ทรู” เปิดตัว Integrity Hotline เสริมความเชื่อมั่นด้านธรรมาภิบาล
Next Article ไทม์ไลน์จักรวาลโหดของ “จิ๊กซอว์” เตรียมสมองสู่ความสยองครั้งใหม่ใน SAW X
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

EditorINSIGHTSOCIAL

สวนนงนุช จัดพิธีเปลี่ยนธงมนตรา 9 ต้น เสริมสิริมงคล

By Srawut
Editor

มอง AI กับการสอนศิลปะ เมื่อเทคโนโลยีกำลังจะ Disrupt งานสร้างสรรค์

By adisak.mha
BUSINESS

“ฮ่องกง” มุมใหม่หลังมหันตภัยโควิด 

By ระวี ตะวันธรงค์
BUSINESS

“โอมศิริ วีระกุล” จากความเจ็บปวดของ First Jobber สู่ Team Leader ของคนรุ่นใหม่

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.