ท่ามกลางแสงไฟในเมืองใหญ่ ใครหลายคนอาจอาจกำลังเลิกงานหรือเดินทางกลับบ้านเพื่อพักผ่อน แต่มีผู้คนอีกไม่น้อยที่กำลังเริ่มออกจากมาใช้ชีวิต โดยการเลือกจำจองพื้นที่ใน Co-working space หรือร้านฟาสต์ฟู้ดสักแห่งในยามเวลาวิกาลเพื่อเริ่มงานแรกของวัน กินอาหารมื้อแรกของวันเริ่มกิจวัตรอื่นๆ การใช้ชีวิตกลางคืนไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เริ่มเข้ามาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนเมืองกรุงมาพักใหญ่แล้ว ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยี สังคม หรือเศรษฐกิจ ที่ทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่เปลี่ยนมาสู่ ‘สังคมคนนอนดึก’ (Sleepless Society) มากขึ้น ด้วยมีไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่นมากขึ้น รักอิสระ ความรวดเร็ว ต้องการจัดสรรชีวิตด้วยตนเองทะลายกำแพงความเชื่อแบบเดิมที่ถูกจำกัดอยู่แค่การตื่นไปทำงานในเวลาเช้าเลิกงานในยามเย็น แล้วกลับบ้านไปนอนดูทีวีเข้านอนก่อนตื่นไปทำงานรุ่งเช้าวันถัดไปวนเวียนอยู่เท่านั้น
เมื่อกาลเวลาผันเปลี่ยนหลายสิ่งที่เคยมีถูกแทนที่นวัตรกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาขับเคลื่อนสังคม รวมถึงการเข้ามาของอินเทอร์เน็ตทำให้ทุกสรรพสิ่งบนโลกเชื่อมโยงกัน การสื่อสารข้ามน้ำข้ามทะเลไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป ระยะทางและเวลาจึงไม่ใช้ปัญหา และการทำงานที่ไร้ข้อจำกัดเหล่านี้ ที่ทำให้สังคมเกิดเป็น sleepless society เพิ่มมากขึ้น โดยเว็บไซต์ Marketingoops.com ได้สรุปพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคใหม่ที่กำลังเข้าสู่ยุคระบบเศรษฐกิจใหม่ หรือ ‘gig economy’ ทำให้มีอาชีพให้เกิดหารจ้างงานงานแบบครั้งๆ ขึ้น เกิดความหลากหลายทางด้านอาชีพและส่งผลให้คนทำอาชีพ ‘ฟรีแลนซ์’ มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เช่น Uber, Grab, Airbnb, Kerry Express ฯลฯ เกิดเป็นงานฟรีแลนซ์รูปแบบใหม่ที่สร้างงานสร้างโอกาสให้กับผู้คนทั่วโลก
Gig worker เทรนด์นิยมคนเจนใหม่
Gig worker เทรนด์การทำวงานที่กำลังเติบโต เมื่อทีมบริหารจัดการคนเก่งจำนวนมากหันมาจ้างฟรีแลนซ์มากขึ้นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ผลักดันนวัตกรรม และใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ งานวิจัยพบว่า ทีมบริหารจัดการคนกว่า 62% มองว่า gig worker เป็นแรงงานที่กำลังจะเติบโตในอนาคต ในขณะที่อีก 65% มองว่า gig worker กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติของยุคนี้ และพบอีกว่า แรงงานของพวกเขาที่เป็น gig worker มีสัดส่วนถึง 40% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ด้วยความยืดหยุ่นในการทำงาน อาชีพฟรีแลนซ์จึงไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเวลาหรือเข้าออฟฟิศทุกวันเหมือนอาชีพประจำ พวกเขาสามารถกำหนดเวลาและสถานที่ทำงานได้ด้วยตนเอง บางครั้งเราจะเห็นคนนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือสถานที่ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ โดยไม่มีช่วงเวลาทำงานที่ตายตัว อาจจะเป็นช่วงกลางวัน ไปจนถึงช่วงเที่ยงคืน หรืออาจจะยันรุ่งสางเลยก็ว่าได้ ด้วยความมีอิสระในการทำงานเช่นนี้ ทำให้ผู้คนหันมาทำอาชีพฟรีแลนซ์กันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมี gig worker ถึง 31% ของแรงงานทั่วโลก
ขณะที่สถิติการจ้างงาน Gig Worker บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Fastwork.co ในประเทศไทย
พบว่า กลุ่ม Digital & Graphic มีสัดส่วน 38% รองลงมาเป็นกลุ่ม Marketing และ Advertising มีสัดส่วน 22% กลุ่ม Writing & Translation มีสัดส่วน 19% กลุ่ม Photography & Video มีสัดส่วน 8% กลุ่มอื่น ๆ มีสัดส่วน 8% กลุ่มอื่น ๆ กลุ่ม Web & Programming มีสัดส่วน 5% นอกจากนี้แนวโน้มการจ้างงาน Gig Worker ในประเทศไทยพบว่ามีจำนวนผู้สมัครงาน Gig Worker เพิ่มขึ้นถึง 170% โดยมีลูกค้าส่วนใหญ่ที่จ้างงานจะเป็นกลุ่มของ SMEs, Startup
นอกจากเทรนด์การทำงานที่เปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อีกปัจจัยหนึ่งคือโครงสร้างครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตที่เนครอบครัวใหญ่ปรับเปลี่ยนเป็นครอบครัวที่เล็กลงตามยุคสมัยหรือหลายคนเลือกอยู่เป็นโสดใช้ชีวิตแบบอิสระทำให้ผู้คนสามารถจัดสรรเวลาได้ด้วยตัวเองมากขึ้น รวมถึงที่พักอาศัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก การเดินทางที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ทำให้หนึ่งของแต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่แปลงเปลี่ยนไป ทำให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของมนุษย์กลางคืน จนได้เกิดเป็นเทรนด์ ‘24-hour business’ หรือเทรนด์ ‘ธุรกิจแบบ 24 ชั่วโมง’ ขึ้น เพราะธุรกิจ 24 ชั่วโมง ไม่ได้มีแค่ร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น, แฟมิลี่ มาร์ท, ฟู้ดแลนด์ อีกต่อไป แต่มีอีกหลายธุรกิจที่เปิดให้บริการเพื่อรองรับไลฟ์ไตล์คนเมืองที่มีความยืดหยุ่นในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ในแง่ของผู้ประกอบการเมื่อขยายเวลาเปิดทำการ ก็เท่ากับว่ามีโอกาสเพิ่มกำไรมากขึ้น หลายแบรนด์ดังก็หันมาลุยตลาดนี้ มาดูกันว่ามีธุรกิจอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ฟิตเนสรอบดึก สำหรับคนฟิตตลอดเวลา
ธุรกิจฟิตเนสเป็นอีกธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม ด้วยไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เริ่มใส่ใจสุขภาพและความสำคัญกับรูปร่างที่ผอมเพรียว หรือหุ่นหน่าแน่น ซิกแพกเป็นก้อนๆ หรือกล้ามเป็นมัด โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิสที่ต้องการพื้นที่ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ร่างกายเฟรซก่อนเข้างานหรือหลังเลิกงานตามแต่ใจต้องการ จึงเกิดธุรกิจฟิตเนส 24 ชั่วโมงนี้ขึ้นมา สำหรับที่ได้รับความนิยม เช่น เช่น Jetts 24 Hour Fitness, Fitness 24 Seven และ Fitness First เป็นต้น ถ้าคุณอยากฟิตก็แวะมาใช้บริการที่นี่ได้ทุกเมื่อ
Community 24 ชม. สำหรับคนใช้ชีวิตยามค่ำคืน
ธุรกิจธุรกิจคอมมูนิติมอล์ (Community Mall) เริ่มหันมาปรับตัวเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใช้ชีวิตยามกลางคืนมากขึ้น โดยการเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ที่จะมาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ดึงดูดให้คนได้ใช้ชีวิตที่หลากหลาย เป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ เป็นอีกช่องทางการตลาดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับคอมมูนิติมอล์ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ได้แก่ โครงการ Mixed Use ตั้งอยู่ ณ สามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งศูนย์บริการสินค้าครบวงจรสำหรับคนเมือง ซึ่งมีไฮไลท์ที่เปิดให้บริการตลอดบริการ 24 ชั่วโมง บนพื้นที่โซน Never Sleep Mitr ที่รวบรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และ SAMYAN CO-OP พื้นที่ Co-Learning Space ที่เปิดให้ทุกคนใช้บริการฟรีตลอดเวลา เพียงแค่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ภายในพื้นที่แห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แบ่งโซนพื้นที่ส่วนกลาง ห้องประชุม ห้องจัดกิจกรรม เพื่อใช้อ่านหนังสือ ทำงาน หรือประชุมงาน จนทำให้บางแบรนด์ที่ไม่เคยมีสาขา 24 ชั่วโมงมาก่อน อย่าง ไอศกรีม Swensen’s, ชาบูชิ, มินิโซ ฯลฯ ก็ร่วมลุยตลาดที่นี่เป็นครั้งแรก เพราะเห็นช่องทางการเติบโตนั่นเอง
ร้านสะดวกซัก สำหรับคนรักความสะดวก
สำหรับคนที่พักอยู่คอนโดที่ต้องรอคิวซักผ้าเป็นเวลานานๆ เพราะเครื่องซักผ้าไม่เพียงพอกับจำนวนผู้พักอาศัย จึงเกิดเป็นธุรกิจร้านสะดวกซัก 24 ชั่วโมง ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนวัยที่ทำงาน ในการเลือกซักผ้า จะซักตอนไหนก็ไม่ต้องนานหรือต้องมารอลุ้นในการซักผ้าแต่ละครั้งว่าจะมีเรื่องว่างให้เอาผ้าลงเครื่องได้ทันทีนหรือไม่ แถมสามารถตั้งโหมดซัก เลือกเวลาซักได้ตามต้องการ มีเครื่องอบแห้งที่ทำให้ผ้าบางประเภทแห้งสนิทได้ทันที สามารถสวมใส่ได้เลยโดยไม่ต้องนำไปตากซ้ำ ประหยัดเวลา สุด ๆ เหมาะกับคนที่มีเวลาไม่มาก นอกจากนี้ยังมีบริการ Wi-Fi ทำให้นั่งรอซักผ้าได้เพลิน ๆ บางแห่งมีโปรโมชั่นพิเศษซักหลังเที่ยงคืนได้ลดครึ่งราคาอีกต่างหาก ปัจจุบันมีธุรกิจร้านสะดวกซักอยู่ประมาณ 300 สาขา ในไทย และคาดว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี ข้างหน้า ธุรกิจนี้มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มถึง 500-600 สาขา เลยทีเดียว
ธุรกิจ 24 ชั่วโมงได้ทลายข้อจำกัดของเวลา ที่ปกติการเปิด-ปิดให้บริการของศูนย์การค้าทั่วไปจะอยู่ที่ 10.00-22.00 น. แต่สิ่งที่ธุรกิจ 24 ชั่วโมงต้องคำนึง ไม่ใช่การขยายเวลาให้บริการเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เพราะนอกจากค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายมากขึ้น ยังมีระบบบริหารจัดการร้านอื่นๆ ที่ต้องมีการลงทุนลงแรงเพิ่ม ทั้งระบบการจ้างพนักงานที่ให้บริการ ระบบความปลอดภัยที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกลางดึกเป็นช่วงเวลาที่เสี่ยงต่อการเจอมิจฉาชีพ และระบบการจัดการสินค้าคงคลัง ซึ่งบางธุรกิจก็ต้องตัดสินใจให้ดีว่า การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงนั้นจะคุ้มทุนกับตัวเองหรือไม่เมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการในช่วงเวลากลางดึก
ด้วยไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เปลี่ยนไปทำให้ธุรกิจกลางคืนหรือธุรกิจ 24 ชั่วโมง ผุดเป็นดอกเห็ดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ความหลากหลายของแบรนด์และประเภทของธุรกิจ เปิดโออาสทำกำไรเพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เปลี่ยนไป การทำงานไม่ใช่ช่วงฟ้าสางถึงพระอาทิตย์ตกดินอีกต่อไป
