The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / ถอดรหัส AI Disruption: ใช้มัน…อย่าให้มันใช้เรา
EditorINSIGHTSOCIAL

ถอดรหัส AI Disruption: ใช้มัน…อย่าให้มันใช้เรา

Srawut
Last updated: 9 ต.ค. 2025 16:49
Srawut
Share
SHARE

ทำความเข้าใจ AI Disruption คลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อทุกอาชีพ พร้อมเรียนรู้หลักการ “Human in the Loop” เพื่อควบคุมและใช้งาน AI อย่างชาญฉลาด

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีในวงการสื่อสารมวลชน ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่การร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ไปจนถึงวันที่ต้องปิดตัวลง การปรับเปลี่ยนองค์กรสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์สู่ยุค “ออนไลน์เฟิร์ส” (Online first) ล้วนเป็นบทเรียนที่สอนเราว่า การหยุดนิ่งคือการถอยหลัง

แต่การเปลี่ยนแปลงที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ รุนแรงและรวดเร็วกว่าครั้งไหน ๆ เรากำลังก้าวข้ามจากยุค Digital Disruption ไปสู่ AI Disruption อย่างเต็มตัว

รายการ “Media Code” ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งไม่ได้เป็นเพียง “เครื่องมือ” (Tool) อีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น “พลังแห่งการเปลี่ยนรูป” (Transformative Force) ที่กำลังจะพลิกโฉมทุกวงการ

หลักการสำคัญที่เราต้องยึดไว้ให้มั่นคือ “เราต้องเป็นผู้ใช้ AI อย่าปล่อยให้ AI ใช้เรา” เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ควบคุมมัน และไม่ตกเป็นทาสของข้อมูลที่มันป้อนให้โดยไม่รู้ตัว

คลื่นสึนามิ AI: ภัยคุกคามต่อตำแหน่งงานที่ไม่อาจมองข้าม

ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นภาพอนาคตที่น่ากังวล ภายในปี 2030 คาดการณ์ว่าบริษัททั่วโลกจะลดการจ้างงานพนักงานลงถึง 41% เพื่อนำ AI เข้ามาทดแทน

แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง McKinsey ที่มีพนักงานเกือบหมื่นคนทั่วโลก ยังคาดการณ์ว่าจะลดพนักงานลงเกือบ 30% ภายในปี 2025

เหตุผลนั้นชัดเจน เพราะงานที่เคยต้องอาศัยทักษะมนุษย์ในการให้คำปรึกษา ค้นคว้าข้อมูลเชิงลึก และทำวิจัย กำลังจะถูก AI เข้ามาทำหน้าที่แทนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่า

พนักงานที่เหลือรอดจึงต้องยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity) และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องสามารถ “ควบคุม AI” ได้

หลายอาชีพกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงสูงที่จะถูกทดแทน:

  • ฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Service): แชทบอทอัจฉริยะสามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนและหลากหลายได้อย่างน่าทึ่ง
  • นักบัญชีและนักกรอกข้อมูล (Data Entry): AI สามารถรวบรวม แปล และสรุปข้อมูลจากทั่วโลกได้ในเวลาไม่กี่นาที
  • นักพิสูจน์อักษร: ความผิดพลาดจากสายตามนุษย์จะลดน้อยลง เมื่อ AI เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบ
  • ทหาร: เทคโนโลยีการทหารก้าวล้ำไปมาก โดรนและ AI ถูกใช้ในการตรวจจับและจำลองสถานการณ์รบ ทำให้บริษัทอย่าง Palantir ซึ่งพัฒนา AI ให้กับกองทัพสหรัฐฯ กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาล
  • สายงานอาหาร: แม้แต่การทำอาหารก็ไม่เว้น ร้านก๋วยเตี๋ยวบางแห่งเริ่มใช้แขนกลหุ่นยนต์ที่ป้อนสูตรด้วย AI เพื่อควบคุมรสชาติและคุณภาพให้คงที่

AI ในห้องข่าว: ระหว่างโอกาสและความท้าทาย

ในวงการสื่อสารมวลชน AI ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป องค์กรสื่อทั่วโลกกว่า 79% ได้นำ AI มาปรับใช้ในห้องข่าว (Newsroom) แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือ การขาดนโยบายกำกับดูแลที่ชัดเจน

ซึ่งสร้างความเสี่ยงทั้งในแง่ข้อมูลรั่วไหลและปรากฏการณ์ “Hallucination” ที่ AI สร้างข้อมูลเท็จขึ้นมาเอง

น่าประหลาดใจที่ผลสำรวจจาก Reuters Institute ในปี 2024 พบว่า ประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ของโลก (39%) ที่ผู้คนรู้สึกสบายใจและเชื่อถือข่าวสารที่มาจาก AI

ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวลและตอกย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความรู้เท่าทันสื่อยุคใหม่ สำนักข่าวระดับโลกต่างนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน:

  • Reuters: ใช้ Gemini ในการตรวจสอบและคัดแยกรูปภาพข่าวนับหมื่นภาพต่อวัน เพื่อจำแนกภาพจริงออกจากภาพที่สร้างโดย AI
  • Times.com และ Bloomberg: ใช้ AI ในการสร้าง Personalized News เพื่อนำเสนอข่าวสารที่ตรงกับความสนใจของสมาชิกแต่ละรายโดยเฉพาะ
  • Associated Press (AP): ใช้ Chat GPT พัฒนาระบบค้นหาคลังข่าวในอดีต (Archive) ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันทราฟฟิกบนเว็บไซต์สื่อกว่า 63% ไม่ได้มาจากมนุษย์ แต่มาจาก AI ที่เข้ามาเก็บข้อมูล (Information Scraping)

นี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้การสร้างคอนเทนต์ต้องเปลี่ยนจากการทำเพื่อ SEO (Search Engine Optimization) ให้คนค้นหา มาเป็นการทำเพื่อให้ AI อ่านและเรียนรู้

ทางรอดของมนุษย์: ยึดมั่นในหลักการ “Human in the Loop”

เมื่อ AI สามารถเข้ามาแทรกแซงกระบวนการผลิตคอนเทนต์ได้ตั้งแต่การคิดคอนเซ็ปต์ ร่างสคริปต์ ไปจนถึงการสร้าง “อวตาร” (Avatar) ขึ้นมาพูดแทนเราได้อย่างแนบเนียน คำถามสำคัญคือ บทบาทของมนุษย์อยู่ตรงไหน?

แม้แต่งานที่เคยต้องการทักษะสูงและมีรายได้มหาศาลอย่าง Data Engineer หรือ Data Scientist ก็กำลังถูกเปลี่ยนบทบาท จากเดิมที่ต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อน ปัจจุบันหน้าที่หลักของมนุษย์กลับกลายเป็นการ “ป้อนข้อมูลและควบคุม AI” ให้ทำงานตามที่ต้องการ

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ ทางรอดเดียวของมนุษย์คือการยึดมั่นในหลักการ “Human in the Loop” (HITL) ซึ่งหมายความว่ามนุษย์จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานของ AI เสมอ โดยมีหัวใจสำคัญ 3 ประการ:

  1. การป้อนข้อมูล (Input): มนุษย์ต้องเป็นผู้คัดเลือกและป้อนข้อมูลที่มีคุณภาพให้ AI เรียนรู้ ไม่ใช่ปล่อยให้ AI ไปหาข้อมูลมาเองอย่างไร้การควบคุม
  2. การตรวจทาน (Review): ก่อนนำผลลัพธ์ที่ได้จาก AI ไปใช้งาน มนุษย์ต้องทำหน้าที่ตรวจทานความถูกต้องและความเหมาะสมเสมอ
  3. การตัดสินใจขั้นสุดท้าย (Final Decision): มนุษย์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ “คนสุดท้าย” ก่อนที่จะกดปุ่ม Enter เพื่อเผยแพร่ข้อมูลนั้นออกไปสู่สาธารณะ

ท้ายที่สุดแล้ว AI ได้เรียนรู้พฤติกรรมของเราและสร้าง “ห้องเสียงสะท้อน” (Echo Chamber) ที่คอยกล่อมเกลาให้เราเชื่อในสิ่งที่มันป้อนให้ซ้ำ ๆ สิ่งสำคัญที่สุดจึงไม่ใช่แค่การใช้ AI ให้เป็น แต่คือการ “รู้เท่าทัน” ทั้งสื่อและ AI

เพื่อให้เราสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่เรากำลังเสพอยู่นั้นเป็นความจริงหรือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น เพราะในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างความจริงกับสิ่งสังเคราะห์เลือนลางลงทุกขณะ การมี Critical Thinking คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราเป็นนายของเทคโนโลยี ไม่ใช่ทาสของมัน

บทความโดย ระวี ตะวันธรงค์

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article “พรรคเพื่อไทย” จะกลับมาได้ ! ต้องกล้าผ่าตัดครั้งใหญ่
Next Article สันติ มอบนโยบายคุ้มครองผู้บริโภค “Quick Big Win”
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

“บาร์บี้ดาวน์ซินโดรม” ความงามแบบใหม่ในโลกที่ความสวยไม่ได้จำกัดแค่รูปแบบเดียว

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

รู้จัก “พังก์” แฟชั่นสะท้อนความเหลื่อมล้ำและทลายกรอบสังคมของอังกฤษ

By adisak.mha
Editor

ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ติดโผ 10 อันดับผู้นำรุ่นใหม่ของนิตยสาร Time

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTPOLITICS

ข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐฯ ทำกับ 4 ประเทศ เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?

By Srawut
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.