ภาพการท่องเที่ยวในปี 2566 สมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทยประเมินว่าเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าในปีนี้จะอยู่ที่ 30 ล้านราย ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 หรือช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านราย และคาดว่าในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเทียบเท่ากับปี 2562 อีกครั้ง
แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวก็คือพฤติกรรมการเที่ยวที่เปลี่ยนไป ก่อนยุคโควิด-19 นักเดินทางต่างชาติส่วนใหญ่จะเข้ามาในลักษณะของกรุ๊ปทัวร์มากถึง 80% พอโลกก้าวเข้าสู่การแพร่ระบาดของไวรัส สัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์กับผู้ที่เดินทางเข้ามาเป็นกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ที่ 50:50 พอมาถึงทุกวันนี้ ตัวเลขพลิกผันกลายเป็นเข้ามาเที่ยวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มากถึง 80% ที่เหลือกลายเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ ทำให้ทุกธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องปรับตัว อะไรที่เคยได้รับความนิยมในคนหมู่มากก็จะได้รับความนิยมน้อยลง การหันมาพุ่งเป้าไปที่ความสนใจเฉพาะกลุ่มก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น
ที่มาภาพ: blog.nowescape.com
ธุรกิจเกม Escape Room เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมมาก ๆ ในต่างประเทศโดยเฉพาะในโซนทวีปยุโรป และสหรัฐฯ รวมไปถึงบางประเทศในแถบทวีปเอเชีย ซึ่ง Escape Room เป็นเกมที่สร้างสถานการณ์จำลองขึ้นมาโดยใช้พื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร กำหนดเป็นธีมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานีอวกาศ เรือไททานิค ไปจนถึงธีมภาพยนตร์ และอารยธรรมต่าง ๆ ผู้เล่นจะรวมกลุ่มกันเป็นกรุ๊ปสวมบทบาท (Role Play) ต่าง ๆ ไขปริศนาเพื่อหาทางออกจากห้องนั้น ๆ ให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด หากหมดเวลาผู้เล่นสามารถกดต่อเวลาได้เพื่อเล่นให้จบเกม แต่ละที่ก็จะมีการกำหนดอัตราค่าบริการต่างกันไป
ดร. วีรณัฐ โรจนประภา นักวิชาการ และผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านอารีย์ เปิดเผยในงาน Food & Hospitality บนเวทีสัมมนา Tourism Tech Talk และกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายธุรกิจ ว่าธุรกิจเกม Escape Room เป็นโอกาสทองของภาคอุตหกรรมท่องเที่ยวไทย ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เข้ามาประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่เติบโตในประเทศไทยสูง ซึ่งธุรกิจ Escape Room ก็จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เข้ามารองรับคนกลุ่มนี้ที่ไม่นิยมท่องเที่ยวในยามราตรีตามร้านผับบาร์
Escape Room เป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อให้เกิดความท้าทาย เป็นการผจญภัยในรูปแบบหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเล่นกันเป็นกลุ่ม 5-6 คน โดย ดร. วีรณัฐ เน้นย้ำว่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมในระดับสากล
ที่มาภาพ: blog.nowescape.com
“ในยุโรป อย่างกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถือเป็นเมืองหลวงของธุรกิจนี้ ที่รัฐบาลถึงกับประกาศให้มีการจัดงาน Escape Room Festival เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ขณะที่นครลอนดอน สหราชอาณาจักร มีคนที่ทำธุรกิจนี้หลายค่าย เช่นเดียวกับประเทศจีน ที่บางเมืองมี Escape Room มากกว่า 20,000 ห้อง
ไม่เว้นแม้แต่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศสิงคโปร์ เกาะเล็ก ๆ ที่มี Escape Room มากถึง 29 ห้อง และส่วนใหญ่ถูกจองล่วงหน้าเต็มหมดเลย ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น ย่านชินจูกุ Escape Room ที่ตึก Tokyo Mystery Circus ก็สามารถสร้างเม็ดเงินได้หลายล้านต่อปี ทั้งนี้ถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการ และจะเป็นธุรกิจที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย”
ธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่ให้คนที่เข้ามาเล่นครั้งเดียวแล้วจบ หลายแห่งทั่วโลกนิยมสร้างกันเป็นชุมชน (Community) ขนาดเล็ก ให้คนที่เล่นสามารถเก็บแต้มการเป็น Escape Room Hunter ไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะได้สิทธิ์การเป็นสมาชิกชาว Escape Room
ที่มาภาพ: blog.nowescape.com
สำหรับมูลค่าตลาดของธุรกิจ Escape Room ทั่วโลก ดร. วีรณัฐ เปิดเผยว่าในปี 2564 มีมูลค่า 2.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะเป็นตัวเลขที่กระจุกตัวอยู่ที่อเมริกา และประเทศฮังการี
ทั้งนี้ Escape Room ปัจจุบันก็มีการพัฒนาให้มีความสมจริงมากขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามี Escape Room ที่สมจริงมากที่สุดก็คือ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซียที่มีมากถึง 178 ห้อง
