เปิดสถิติข้อมูล Wisesight Research พร้อมบทวิเคราะห์ “ค่าครองชีพสูง” สะท้อนความเดือดร้อนของประชาชน บนโลกโซเชียล
เปิดสถิติข้อมูล Wisesight Research รวบรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 พร้อมบทความวิเคราะห์เจาะลึกเสียงสะท้อนจากโลกโซเชียลกว่า 4 ล้านข้อความ เพื่อถอดรหัสว่า คนไทยกำลังเผชิญกับอะไร ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนำไปจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
1.เสียงของประชาชนพูดถึงเรื่องอะไรดังที่สุด
อันดับ 1. ค่าครองชีพสูง
“ค่าครองชีพ” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงมากที่สุดเป็นอันดับ 1 บนโซเชียลมีเดียถึง 238,356 ข้อความ ในระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2568
เสียงของประชาชนเต็มไปด้วยความรู้สึกว่า “ชีวิตที่แพงขึ้น แต่รายได้ยังเท่าเดิม” พวกเขาไม่ได้เพียงแค่บ่นว่าของแพง แต่ชี้ให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่างค่าแรงขั้นต่ำกับค่าครองชีพที่แท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือนในเดือนมิถุนายน 2568
และเมื่อย้อนดูข้อมูลจากผลสำรวจของ “สวนดุสิตโพล” ที่ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-21 กุมภาพันธ์ และเผยแพร่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกับการเก็บสถิติข้อมูลของ Wisesight Research (6 เดือนแรกของปี 2568)
โดยในหัวข้อที่ 2 “ประชาชนคิดว่าปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากที่สุด” ความคิดเห็นที่ว่า “ค่าครองชีพสูง” ก็อยู่ในอันดับที่ 1 สูงถึง 82.94 %
อันดับ 2. ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
ประเด็น “ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” ถูกพูดถึงมากเป็นอันดับ 2 มีจำนวน 187,599 ข้อความ โดยรายงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ฉบับล่าสุด ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระบุว่า ประเทศไทยมีเด็กและเยาวชนอยู่นอกระบบการศึกษาเกือบ 1 ล้านคน มีจำนวนนักเรียนยากจนพิเศษ 1.3 ล้านคน โดยจะมีเพียง 10% เท่านั้น ที่สามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้
อันดับ 3. แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ปัญหา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เป็นภัยที่สร้างความหวาดกลัวให้คนไทยอย่างกว้างขวาง โดยมีการกล่าวถึงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 จำนวน 173,465 ข้อความ
ซึ่งความกลัวนี้ไม่ได้เกินจริง เพราะข้อมูลทางการยืนยันว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 มีคดีหลอกลวงทางออนไลน์เกิดขึ้นกว่า 141,797 คดี สร้างความเสียหายรวมกว่า 1.17 หมื่นล้านบาท
2. นโยบายที่ประชาชนกล่าวถึงมากที่สุด
ต้องขอย้ำก่อนว่า การเก็บข้อมูลเชิงสถิติของ Wisesight Research ในการจัดทำรายงานชิ้นนี้ เก็บข้อมูลช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว รัฐบาลแพทองธาร ยังบริหารประเทศอยู่
แต่ในปัจจุบัน (29 ก.ย. 68) ที่ทาง Wisesight ได้เผยแพร่ข้อมูล ได้มีการเปลี่ยนเป็น “รัฐบาลอนุทิน” แล้ว ข้อมูลที่จะนำเสนอต่อไปนี้ แม้จะสอดคล้องกับสถานการณ์วันนี้ แต่ก็ยังสะท้อนให้เห็นความต้องการของประชาชนได้อย่างน่าสนใจ
อันดับ 1 “เงินดิจิทัล” มีการกล่าวถึง 41,154 ข้อความ (17% กล่าวคำว่า “ขอบคุณ”)
อันดับ 2 “กัญชาไม่เสรี” มีการกล่าวถึง 19,285 ข้อความ (23% กล่าวคำว่า “เห็นด้วย)
อันดับ 3 “สุราชุมชน” มีการกล่าวถึง 3,034 ข้อความ (20% กล่าวคำว่า “ขอบคุณ”)
อันดับ 4 “รถไฟฟ้า 20 บาท” มีการกล่าวถึง 2,953 ข้อความ (8% กล่าวคำว่า “ขอบคุณ”)
อันดับ 5 “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” มีการกล่าวถึง 1,825 ข้อความ (13% กล่าวคำว่า “ขอบคุณ”)
แม้ในวันนี้ เงินหมื่นดิจิทัล จะกลายเป็นนโยบายที่ไม่เกิดขึ้นจริง แต่จากการขานขับ “คนละครึ่งพลัส” ของ “รัฐบาลอนุทิน” อย่างคึกคัก ก็สะท้อนให้เห็นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างเร่งด่วน คือสิ่งที่ประชาชนโหยหามากที่สุดในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างหนักหนาและยาวนาน
3. ประเด็นปัญหาที่พูดถึงไม่ดัง แต่ไม่เคยเงียบหาย
ในส่วนนี้ จะเป็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ แม้ตามสถิติจะมีการพูดถึงไม่มาก แต่จากการเก็บของมูลของทาง Wisesight จะเป็นปัญหาที่ถูกกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง ตลอด 6 เดือนแรกของปี 2568
– ปัญหา “แอปของภาครัฐ”
31,097 ข้อความ เฉลี่ยเดือนละ 5,193 ข้อความ
– ปัญหา “เข้าไม่ถึงระบบขนส่งสาธารณะ
11,792 ข้อความ เฉลี่ยเดือนละ 1,966 ข้อความ
4. เสียงที่เพิ่งดัง ประเด็นที่ชาวโซเชียลเริ่มให้ความสนใจ
– ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท
17,216 ข้อความ ความคิดเห็นมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ
– เที่ยวไทยคนละครึ่ง
10,691 ข้อความ ค่อนข้างไปทางลบ ทั้งในการใช้งานแอปฯ และตัวนโยบาย
ท้ายที่สุดแล้ว เสียงสะท้อนจากสังคมออนไลน์คือหน้าต่างบานสำคัญที่เปิดให้ภาครัฐมองเห็นความต้องการและปัญหาของประชาชน การรับฟังและนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ คือกุญแจสำคัญในการลดช่องว่างระหว่างนโยบายและความเป็นไปได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแท้จริง
อ้างอิงหลัก
อ้างอิงเพิ่มเติม
สวนดุสิตโพล : คนไทยกับภาวะเศรษฐกิจ ณ วันนี้ (เผยแพร่ 23 ก.ย. 68)
รายงานสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาฯ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
กองบังคับการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
