ผ่าเส้นทาง SEAGames2025 จากแผน 4 ปี สู่สัญญา 6 วันสุดท้าย และปัญหาจอดำที่กฎ mustcarry ไม่ได้มีไว้ช่วยประชาชน ?
ภาพความยิ่งใหญ่ของพิธีเปิดซีเกมส์ 2025 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา คือ “ฉากหน้า” ที่สวยงาม แต่หากเราย้อนเวลากลับไปดู “หลังบ้าน” ตลอด 4 ปีเต็ม (2564-2568) เราจะพบว่านี่คือกรณีศึกษาของ “ความล้มเหลวเชิงโครงสร้าง” ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดครั้งหนึ่ง
เราเปลี่ยนนายกฯ 3 คน เปลี่ยนรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา 4 คน และเปลี่ยนโมเดลการถ่ายทอดสดใหม่หมดจด
วันนี้ผมจะกางไทม์ไลน์ให้ดูชัดๆ ใน 2 มิติ: “การจัดงานที่ไฟลนก้น” และ “ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่เกือบจอดำ” ว่ามันเดินทางมาถึงจุดวิกฤตพร้อมกันได้อย่างไร
มิติที่ 1: มหากาพย์การจัดงาน แผน 4 ปี สู่วิกฤต 6 วัน
จากนโยบายที่สวยหรู สู่การทำงานฟรีเพื่อชาติ
ปัญหาไม่ได้เพิ่งเกิดปีนี้ แต่สะสมมาจากการส่งไม้ต่อที่ไม่ราบรื่นในช่วงรอยต่อทางการเมืองและรัฐราชการ
เฟส 1: ปักหมุดและวางฐาน (ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์)
– 9 ธ.ค. 2564: จุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ เมื่อมนตรีซีเกมส์ยืนยันให้ไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้การผลักดันของ คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ
– 27 ก.ย. 2565: ครม. ไฟเขียวรับหลักการ
– ม.ค. – พ.ค. 2566: เป็นช่วงที่ราบรื่นที่สุด มีการเคาะเลือก 3 เจ้าภาพ (กทม., ชลบุรี, สงขลา) เสร็จสิ้น
เฟส 2: สุญญากาศและการเปลี่ยนผ่าน (ยุค รัฐบาลคุณเศรษฐา)
– 2566 – ต้นปี 2567: เข้าสู่ช่วง “สุญญากาศทางการเมือง” รัฐมนตรีเปลี่ยนมือเป็น คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และต่อด้วย คุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช การเตรียมงานเน้นไปที่งานเอกสาร ไม่มีการเบิกจ่ายงบก้อนใหญ่
– 14 มิ.ย. 2567: คุณเสริมศักดิ์ ลงนามสัญญาเมืองเจ้าภาพ (Host City Contract) เพื่อยืนยันว่าไทยพร้อม… แต่ในทางปฏิบัติ งบประมาณยังถูกแช่แข็งรอความชัดเจน
เฟส 3: วิกฤตโค้งสุดท้าย (ยุค รัฐบาลคุณแพทองธาร)
– ปลายปี 2567: คุณสรวงศ์ เทียนทอง เข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่เวลาเหลือน้อยเต็มที
– พ.ค. 2568 (ทำงานปากเปล่า): ไทม์ไลน์บีบจนรอไม่ได้ ทีมออแกไนเซอร์ (Director ชุดแรก) และต่อมาคือ index creative village ต้องเริ่มงานออกแบบและเตรียมการล่วงหน้าถึง 7 เดือน โดย “ไม่มีสัญญาจ้าง”
– มิ.ย. 2568: ครม. เพิ่งอนุมัติงบประมาณ ซึ่งล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้กระบวนการ TOR เพิ่งจะเริ่ม
– 3 ธ.ค. 2568: “วันประวัติศาสตร์” กกท. จรดปากกาเซ็นสัญญาจ้างออแกไนซ์ เพียง 6 วัน ก่อนพิธีเปิด

มิติที่ 2: สงครามลิขสิทธิ์และกฎ Must Carry (The Broadcasting Conflict)
”คนไทยจำนวนไม่น้อยดูไม่ได้“ จากการบริหารแบบผูกขาด สู่โมเดลหารายได้ที่ขัดแย้งกับกฎหมาย ในขณะที่ฝ่ายจัดงานวิ่งเต้นเรื่องงบประมาณ ฝ่ายสิทธิประโยชน์ก็กำลังวางระเบิดเวลาลูกใหม่ด้วยการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ
เฟส 1: เปลี่ยนโมเดล (2566 – ต้นปี 2568)
– กกท. ตัดสินใจไม่ใช้ระบบ ทีวีพูล (รวมการเฉพาะกิจฯ) แบบเดิม แต่เลือกใช้วิธีเปิดประมูลหาเอกชนมาบริหารสิทธิ์ (Official Agency) เพื่อหารายได้เข้าประเทศให้มากขึ้น
เฟส 2: การเข้ามาของเอกชนและการผูกขาด (กลางปี 2568)
– เม.ย. – มิ.ย. 2568: กกท. คัดเลือกและประกาศให้ บริษัท สปินเวิร์ค จำกัด (Spinwork) ชนะการประมูลเป็นผู้บริหารสิทธิ์
– 4 ก.ค. 2568 (จุดกำเนิดปัญหา): มีการเซ็น MOU ร่วมกัน 3 ฝ่าย (การกีฬาแห่งประเทศไทย ( Sports Authority of Thailand ) – Spin Work Co.,LTD. – TrueVisions) สาระสำคัญคือ TrueVisions NOW ได้สิทธิ์ Exclusive ถ่ายทอดสดทาง Online OTT แต่เพียงผู้เดียว…
จุดนี้เองที่เริ่มขัดแย้งกับกฎ Must Carry ของ กสทช. ในทางเทคนิค
เฟส 3: ระเบิดเวลาทำงาน (ปลายปี 2568)
– 6 ต.ค. 2568: คณะกรรมการโอลิมปิคฯ (NOCT) มอบอำนาจบริหารลิขสิทธิ์ให้ กกท. เต็มรูปแบบ
– 13 พ.ย. 2568: TrueVisions แถลงความพร้อม ยืนยันความ Exclusive บนแอปพลิเคชัน
– 2 ธ.ค. 2568: กกท. แถลงผัง Free TV (NBT, T Sports 7, PPTV, Thairath, ONE) แต่คำถามที่ค้างคาใจประชาชนคือ “ถ้าดูผ่านกล่องเน็ต/แอปทีวี จะจอดำไหม?”
เฟส 4: ดาบอาญาสิทธิ์ (9 ธ.ค. 2568)
– ในวันพิธีเปิด ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน (Exclusive Rights vs Public Rights) จบลงด้วยคำสั่ง กสทช. ที่ประกาศใช้กฎ Must Carry เต็มรูปแบบ บังคับให้สัญญาณ Free TV ต้องส่งผ่านไปถึงทุกแพลตฟอร์ม เพื่อไม่ให้คนไทยจอดำ

บทสรุป: ประเทศไทยเรียนรู้อะไร?
Timeline 4 ปีนี้สะท้อนความจริงที่เจ็บปวด 2 ข้อ:
1. ระบบราชการแพ้ภัยการเมือง: เรามีข้าราชการและเอกชนที่มีความสามารถ แต่โครงสร้างงบประมาณที่ไม่ต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้คนทำงานต้องแบกรับความเสี่ยง “ทำงานฟรี” จนวินาทีสุดท้าย
2. กฎหมายตามไม่ทันธุรกิจ: การพยายามหารายได้จากค่าลิขสิทธิ์ (Business Model) สวนทางกับกฎหมายสิทธิการเข้าถึงของประชาชน (Must Carry) และเราแก้ปัญหานี้ด้วยการ “หักดิบ” ในวันสุดท้ายเสมอ
ซีเกมส์ 2025 จบลงแล้ว แต่ถ้าโครงสร้างการบริหารจัดการยังเป็นแบบนี้ งานระดับชาติครั้งหน้า…
เราอาจจะไม่ได้โชคดีแบบครั้งนี้ครับ
————
ระวี ตะวันธรงค์
ที่ปรึกษาสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย
ที่ปรึกษาโครงการ National TV platform สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล

