ถอดภาพโอกาสทองไทย–ซาอุฯ จากเอกอัครราชทูตไทย ณ ริยาด ครอบคลุม Vision 2030, ความร่วมมือ STCC และแนวโน้มการลงทุนในซาอุดีอาระเบีย
จากการบรรยายพิเศษของ คุณดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย และประธานหลักสูตร TME กิตติมศักดิ์ ในงาน TME FORUM: THAILAND–SAUDI BRIDGE “VISION 2030 และโอกาสธุรกิจไทยสู่ซาอุดีอาระเบีย” เขาได้ฉายภาพให้เราเห็นว่า ซาอุฯ ในวันนี้ ไม่ใช่ดินแดนแห่งทะเลทรายและน้ำมันแบบเดิมที่เราคุ้นเคยอีกต่อไป แต่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิงภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ที่โลกต้องจับตามอง
1. Vision 2030: พลิกโฉมจาก “เมืองน้ำมัน” สู่ “ศูนย์กลางโลก”
หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ “Vision 2030” ยุทธศาสตร์ชาติที่ต้องการลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน แล้วหันมาสร้างเศรษฐกิจที่หลากหลายและยั่งยืน
คุณดามพ์ได้ชี้ให้เห็นถึง 3 เสาหลักที่ขับเคลื่อนประเทศนี้ คือการสร้าง สังคมที่มีชีวิตชีวา (Vibrant Society) ที่เปิดกว้างด้านความบันเทิงและกีฬา, การสร้าง เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อน (Driving Economy) ที่เน้นการจ้างงานและเปิดโอกาสให้ผู้หญิง, และการเป็น ชาติที่มีความทะเยอทะยาน (Ambitious Nation) ที่มุ่งปฏิรูปรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ
คำกล่าวที่ว่า “ถนนทุกสายจะมุ่งสู่กรุงริยาด” (All roads lead to Riyadh) ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง เพราะซาอุฯ กำลังถมเม็ดเงินมหาศาลลงในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 15 สาขา ตั้งแต่ยานยนต์ไฟฟ้า, พลังงานสะอาด, ไปจนถึง E-Sports และการท่องเที่ยว พร้อมกับโปรเจกต์ระดับยักษ์ (Giga Projects) ที่โลกตะลึงอย่างเมือง “The Line” ในโปรเจกต์ NEOM หรือการเตรียมเป็นเจ้าภาพ World Expo 2030 ซึ่งนี่คือ “จังหวะเวลา” ที่ดีที่สุดของไทยในการเข้าไปมีส่วนร่วม

2. STCC: การสร้าง “สะพาน” ที่หายไป
เพื่อให้การเดินหน้าเป็นไปอย่างราบรื่น รัฐบาลของทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างกลไกสำคัญที่เรียกว่า สภาความร่วมมือซาอุดีอาระเบีย-ไทย (Saudi-Thai Coordination Council หรือ STCC)
คุณดามเปรียบ STCC ว่าเป็นเสมือนการ “สร้างสะพานเชื่อมขนาดใหญ่ที่หายไปนาน” ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้การเดินข้ามไปมาหาสู่กันของทั้งสองฝั่งเป็นระบบและมั่นคง กลไกนี้ครอบคลุมความร่วมมือในทุกมิติ ผ่านคณะกรรมการ 5 ด้านหลัก ทั้งด้านความมั่นคง, เศรษฐกิจ, การเมือง, วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งเปรียบเสมือน “พิมพ์เขียว” ให้ทั้งภาครัฐและเอกชนเดินตามได้อย่างมั่นใจ
3. การทูตเชิงรุก: บุกให้ถึงถิ่น เข้าให้ถึงใจ
ภายใต้การนำของคุณดามพ์ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ไม่ได้ทำงานเพียงแค่ในสำนักงาน แต่ใช้ยุทธศาสตร์ “การทูตเชิงรุก” เขาและทีมงานได้จัดโครงการสัญจร (Provincial Roadshow) บุกไปยังเมืองเศรษฐกิจต่างๆ ทั่วซาอุฯ เพื่อสร้างเครือข่ายระดับท้องถิ่น
รวมถึงการผลักดันให้เกิด “สมาคมธุรกิจไทยในซาอุดีอาระเบีย” โดยดึงเอาบริษัทชั้นนำที่มีประสบการณ์อย่าง SCG International หรือสยามซาอุดี้ มาเป็นพี่เลี้ยง แชร์เคล็ดลับความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการรายใหม่

4. “Trust” กุญแจลับสู่ความสำเร็จ
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดจากการบรรยาย คือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจ โดยเขาเน้นย้ำว่า การทำธุรกิจกับชาวซาอุฯ “ไม่ได้เริ่มต้นที่สัญญา แต่เริ่มต้นที่มิตรภาพ”
วัฒนธรรมธุรกิจที่นี่ให้ความสำคัญกับ ความไว้วางใจ เป็นอันดับหนึ่ง หากรีบร้อนจะปิดดีลโดยข้ามขั้นตอนการสร้างความสัมพันธ์ หรือทำให้ความไว้ใจสั่นคลอน โอกาสทางธุรกิจอาจพังทลายลงและยากจะกู้คืน ดังนั้น การมีพันธมิตรท้องถิ่นที่ไว้ใจได้ จึงเป็นทางลัดที่สำคัญกว่าตัวเลขในกระดาษ
5. บทสรุป
ซาอุดีอาระเบียในวันนี้ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค โอกาสเปิดกว้างแล้วสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความพร้อมและเข้าใจวัฒนธรรม โดยมีสถานเอกอัครราชทูตไทยพร้อมทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” เพื่อนำพาธุรกิจไทยไปสู่ความมั่งคั่งร่วมกัน
คำถามคือ… วันนี้คุณพร้อมหรือยัง ที่จะมุ่งหน้าสู่ริยาด?

อ้างอิงจาก งาน TME FORUM: THAILAND–SAUDI BRIDGE “VISION 2030 และโอกาสธุรกิจไทยสู่ซาอุดีอาระเบีย”

