กอ.รมน. ปรับยุทธศาสตร์รับมือภัยคุกคามใหม่ บูรณาการร่วมทุกหน่วยเสริมความมั่นคงของชาติ ผบ.ทบ.’ ย้ำ กอ.รมน. ต้องพร้อมทุกมิติ เน้นข่าวกรอง-มวลชน-เชื่อมภาคส่วน รับมือสถานการณ์ความมั่นคง
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดประชุม นขต.กอ.รมน. (วาระพิเศษ) และการปฐมนิเทศผู้บริหารประจำปี 2568 เพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทภารกิจขององค์กร และเตรียมความพร้อมในการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง รองรับสถานการณ์ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ที่ห้องกรุงธน บอลล์รูม ชั้น 3 โรงแรมรอยัล ริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการ กอ.รมน. เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. พร้อมด้วยผู้บริหารจากส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ท.ธนาธิป สว่างแสง ผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน. เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแนะนำผู้บริหารใหม่และสร้างความเข้าใจในบทบาท อำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วย รวมถึงแนวทางการปฏิบัติภารกิจร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและรับมือภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพ
ในโอกาสนี้ พล.อ.พนา ได้มอบนโยบายสำคัญให้ทุกหน่วยตระหนักในบทบาทหน้าที่และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจและการสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ภารกิจของ กอ.รมน. อย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำถึงภารกิจหลักขององค์กรในการป้องกัน ควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ ตลอดจนการบรรเทาสาธารณภัยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นโยบายสำคัญที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานนำไปปฏิบัติ ประกอบด้วย การปรับวิธีคิดในการทำงานให้สอดคล้องกับภัยคุกคามยุคใหม่ มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกควบคู่กับการป้องกัน การใช้ข้อมูลข่าวสารและความร่วมมือจากประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการกำกับดูแลทุกส่วนงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติ กอ.รมน. ทำหน้าที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายจากส่วนกลางสู่พื้นที่
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดต้องเพิ่มบทบาทในการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนกลไกการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นการทำงานด้านข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพและการสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชน
สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนทางทะเล ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ภาคและจังหวัดที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวประสานงานร่วมกับกองกำลังป้องกันชายแดนและศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ส่วนพื้นที่ชายแดนด้านกัมพูชา ให้เตรียมความพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารและส่งเสริมให้มวลชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างชัดเจน
ในตอนท้าย รองผู้อำนวยการ กอ.รมน. ได้เน้นย้ำให้ผู้บริหารทุกระดับเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับบทบาท ภารกิจ อำนาจหน้าที่ และข้อกำหนดต่างๆ พร้อมทั้งนำข้อเสนอแนะและผลการทบทวนหลังการปฏิบัติมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนางาน เพื่อให้การดำเนินงานของ กอ.รมน. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อสถานการณ์ความมั่นคงของประเทศได้อย่างรอบด้าน
