The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / เจาะลึกผลโพล “ย้ายพรรค” มีผลต่อคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ ?
EditorINSIGHTPOLITICS

เจาะลึกผลโพล “ย้ายพรรค” มีผลต่อคะแนนเลือกตั้งหรือไม่ ?

Srawut
Last updated: 19 ต.ค. 2025 11:45
Srawut
Share
SHARE

บทวิเคราะห์เจาะลึกผลสำรวจสวนดุสิตโพล เรื่อง “ย้ายพรรค…ย้ายใจประชาชน?” พบคนไทยมองการย้ายพรรคเป็นเรื่องปกติแต่ทำลายความเชื่อมั่นทางการเมือง พร้อมชี้ชัดปัจจัยหลักในการเลือกตั้งคือ “นโยบายพรรค” ไม่ใช่ตัวบุคคล 

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ย้ายพรรค…ย้ายใจ ประชาชน?” จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,117 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568

โดย The Insight ได้แบ่งบทความออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนที่ 1 ได้แก่ ข้อมูลโดยรายะเอียดของผลสำรวจ และส่วนที่ 2 บทวิเคราะห์เจาะลึก

ส่วนที่ 1

ผลโพล “ย้ายพรรค…ย้ายใจประชาชน?”

(1) ประชาชนคิดอย่างไรกับการย้ายพรรคของนักการเมือง

อันดับ 1 เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เห็นเป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 61.32%

อันดับ 2 นักการเมืองขายตัว ซื้อตัวกัน ดูด สส. คิดเป็นร้อยละ 52.91%

อันดับ 3 ทำไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า คิดเป็นร้อยละ 41.99%

(2) ประชาชนคิดว่าสาเหตุสำคัญที่นักการเมือง “ย้ายพรรค” เกิดจากอะไร

อันดับ 1 หาพรรคที่มีอุดมการณ์ตรงกับตนเอง คิดเป็นร้อยละ 58.46%

อันดับ 2 พรรคเดิมอาจพ่ายแพ้การเลือกตั้ง คิดเป็นร้อยละ 48.34%

อันดับ 3 เพื่อผลประโยชน์และความมั่นคงทางการเมือง คิดเป็นร้อยละ 47.90%

(3) หากมีการเลือกตั้ง ประชาชนจะเลือกผู้สมัครจากปัจจัยใดมากที่สุด

อันดับ 1 นโยบายเรือธงของพรรค คิดเป็นร้อยละ 63.47%

อันดับ 2 ผลงานที่เป็นรูปธรรมที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 45.84%

อันดับ 3 ความชื่นชอบในตัวบุคคล คิดเป็นร้อยละ 42.52%

(4) การที่นักการเมือง “ย้ายพรรค” มีผลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนอย่างไร

อันดับ 1 ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เลือกพรรคที่ชอบเท่านั้น คิดเป็นร้อยละ 35.81%

อันดับ 2 รอดูผลงานของพรรคใหม่ที่ย้ายไปสังกัดก่อน คิดเป็นร้อยละ 23.19%

อันดับ 3 ยังไงก็เลือกคนเดิม เชื่อมั่นในตัวบุคคล คิดเป็นร้อยละ 19.24%

อันดับ 4 ทำให้เปลี่ยนใจ ไม่อยากเลือกคนที่ย้ายพรรค คิดเป็นร้อยละ 11.46%

อันดับ 5 ไม่แน่ใจ คิดเป็นร้อยละ 10.30%

(5) การย้ายพรรคของนักการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทยหรือไม่

อันดับ 1 มีผลทำให้ไม่เชื่อมัน่ต่อเสถียรภาพการเมืองไทย คิดเป็นร้อยละ 44.85%

อันดับ 2 เฉย ๆ คิดเป็นร้อยละ 36.62%

อันดับ 3 ไม่มีผลต่อความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย คิดเป็นร้อยละ 18.53%

ส่วนที่ 2

บทวิเคราะห์ผลสำรวจ: “ย้ายพรรค…ย้ายใจประชาชน?”

ผลสำรวจฉบับนี้ของสวนดุสิตโพล เป็นภาพสะท้อนที่น่าสนใจอย่างยิ่งต่อภูมิทัศน์การเมืองไทยในปัจจุบัน เผยให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิดของประชาชนที่ทั้ง “ชาชิน” แต่ก็ “ไม่เชื่อมั่น” ต่อพฤติกรรมการย้ายพรรคของนักการเมือง ซึ่งสามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกได้ 4 ประเด็นหลัก

1. ความขัดแย้งในใจของประชาชน: ยอมรับแต่ไม่ยอมเชื่อ

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือความขัดแย้งในมุมมองของประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 61.32% มองว่าการย้ายพรรคเป็น “เรื่องปกติทางการเมือง” 1 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนคุ้นชินกับปรากฏการณ์นี้จนกลายเป็นความปกติในสายตาไปแล้ว

แต่ในขณะเดียวกัน มุมมองเชิงลบกลับสูงลิ่วไม่แพ้กัน โดย 52.91% มองว่าเป็นการ “ขายตัว ซื้อตัวกัน ดูด สส.” และ 41.99% เชื่อว่าทำไปเพื่อ “ผลประโยชน์ส่วนตัว”  

นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า แม้ประชาชนจะยอมรับว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขายอมรับในความถูกต้องหรือมองภาพลักษณ์ของนักการเมืองที่ย้ายพรรคในแง่ดีแต่อย่างใด เป็นสภาวะ “จำยอม” มากกว่า “ยอมรับ”

2. วุฒิภาวะทางการเมืองที่สูงขึ้น: นโยบายพรรคมาก่อนตัวบุคคล

ผลโพลชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการที่สำคัญของฐานเสียงในระบอบประชาธิปไตยไทย เมื่อถูกถามถึงปัจจัยในการเลือกตั้ง ประชาชนให้ความสำคัญกับ “นโยบายเรือธงของพรรค” มากที่สุดถึง 63.47% ตามมาด้วย “ผลงานที่เป็นรูปธรรม” ที่ 45.84% และความชื่นชอบ “ตัวบุคคล” อยู่ที่อันดับ 3 (42.52%)

ข้อมูลส่วนนี้สอดคล้องอย่างยิ่งกับคำตอบที่ว่า การย้ายพรรคไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เลือกพรรคที่ชอบเท่านั้นซึ่งมีสัดส่วนสูงสุดที่ 35.81% ชี้ให้เห็นว่า “แบรนด์” และ “อุดมการณ์” ของพรรคการเมืองมีความสำคัญเหนือกว่าความภักดีต่อตัว สส. ในพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ

นักการเมืองที่คิดจะย้ายพรรคโดยอาศัยเพียงฐานเสียงส่วนตัวอาจต้องคิดใหม่ เพราะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งยุคนี้ให้น้ำหนักกับสิ่งที่พรรคนำเสนอเป็นหลัก

3. การย้ายพรรค: บ่อนทำลายเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในภาพรวม

แม้การตัดสินใจเลือกตั้งของแต่ละคนอาจไม่เปลี่ยน แต่พฤติกรรมการย้ายพรรคกลับส่งผลกระทบเชิงลบในระดับมหภาคอย่างชัดเจน ประชาชนเกือบครึ่งหนึ่ง (44.85%) รู้สึกว่าการกระทำดังกล่าว “ทำให้ไม่เชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการเมืองไทย”

นี่คือต้นทุนทางการเมืองที่สูงมาก การที่นักการเมืองย้ายสังกัดบ่อยครั้งสร้างภาพลักษณ์ของระบบการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ ขาดอุดมการณ์ และเต็มไปด้วยการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นการบั่นทอนศรัทธาของประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตยในระยะยาว

4. นัยยะเชิงกลยุทธ์ต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง

สำหรับนักการเมือง: การย้ายพรรคมีความเสี่ยงสูงกว่าที่คิด ฐานเสียงที่พร้อมจะ “ย้ายตาม” ตัวบุคคลมีเพียง 19.24% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่ากลุ่มที่รอดูผลงานก่อน (23.19%) และกลุ่มที่ไม่ย้ายตาม (35.81%) อย่างชัดเจน

การจะย้ายพรรคให้ประสบความสำเร็จจึงต้องมีเหตุผลทางอุดมการณ์หรือนโยบายที่ชัดเจนมารองรับ ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าเป็นแค่การหาผลประโยชน์และสูญเสียความน่าเชื่อถือไป

สำหรับพรรคการเมือง: โพลนี้เป็นสัญญาณเตือนว่ายุคของการ “ดูด สส.” เพื่อหวังฐานเสียงส่วนตัวอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้าง “นโยบายเรือธง” ที่โดนใจประชาชน และการสื่อสาร “ผลงานเชิงประจักษ์” ให้ได้มากที่สุด

พรรคที่มียุทธศาสตร์และอุดมการณ์ที่ชัดเจนจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดคะแนนเสียงได้ดีกว่าพรรคที่เน้นการรวมตัวของกลุ่มก๊วนต่างๆ

5. สรุป

โพลฉบับนี้ชี้ว่าประชาชนไทยมีความซับซ้อนในการมองการเมืองมากขึ้น พวกเขามองการย้ายพรรคด้วยสายตาที่เย็นชาและเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจเลือกตั้งโดยใช้ “นโยบาย” เป็นเข็มทิศหลัก

การกระทำของนักการเมืองที่ย้ายพรรคอาจไม่สามารถ “ย้ายใจ” ประชาชนส่วนใหญ่ให้เดินตามได้อีกต่อไป แต่กลับกำลังกัดกร่อนความเชื่อมั่นที่พวกเขามีต่อระบบการเมืองทั้งระบบ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกพรรคการเมืองต้องเร่งแก้ไขเพื่อฟื้นฟูศรัทธาจากประชาชนอย่างแท้จริง

อ้างอิง : สวนดุสิตโพล : “ย้ายพรรค…ย้ายใจประชาชน?”

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article สมการที่กลับข้าง : เมื่อ “สื่อ” อยากเป็น “อินฟลูฯ” และ “อินฟลูฯ” อยากเป็น “สื่อ”
Next Article โฆษกรัฐบาลแจง 7 นักการเมืองไทยเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ เป็นข่าวปลอม
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

Pop Art Pop ใจ : ทำไมงานป็อบถึง (กลับมา) ป็อบในใจคน

By adisak.mha
CALENDARPOLITICS

2 กุมภาพันธ์ 2557 การเลือกตั้งที่ถูกโค่นล้ม จุดเริ่มต้นของการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย (อีกครั้ง)

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

“หมดเวลาแล้วครับพี่” เพลงนับถอยหลังสู่การเปลี่ยนแปลงจาก “Bomb At Track”

By ระวี ตะวันธรงค์
WORLD

“แดร็กโชว์” เสี่ยงผิดกฎหมาย หลังรัฐเท็กซัสเสนอกฎหมายควบคุมความประพฤติทางเพศ

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.