ความท้าทายของ “รัฐบาลอนุทิน” ที่ต้องพิสูจน์ว่า จะเป็นทางออก หรือระเบิดเวลา ภายใต้แรงกดดันต่างๆ มากมาย
การเมืองไทยในปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หลังจากที่ “รัฐบาลแพทองธาร” “ต้องสิ้นสุดลงจากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีคลิปเสียงฮุนเซน การเปลี่ยนผ่านนี้ได้นำไปสู่ “รัฐบาลอนุทิน” ซึ่งมีสถานะที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
1. รัฐบาลเสียงข้างน้อย ภายใต้เงื่อนไข ยุบสภา 4 เดือน
“รัฐบาลอนุทิน” จัดตั้งขึ้นในลักษณะ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่ทำให้รัฐบาลนี้เกิดขึ้นได้ก็คือ การที่ “พรรคประชาชน” (โหวตให้ แต่ไม่เข้าร่วม) ตัดสินใจโหวตสนับสนุนภายใต้ 5 เงื่อนไข
โดยเงื่อนไขที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ “รัฐบาลอนุทิน” ต้อง “ยุบสภา” ภายใน 4 เดือน เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง(นับจากวันแถลงนโยบาย) ความสัมพันธ์ที่เปราะบางนี้ จึงทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลขึ้นอยู่กับการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับ “พรรคประชาชน”

2. อำนาจตุลาการยังคงมีบทบาทสูง
ภูมิทัศน์การเมืองในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ ถูกกำหนดโดยคำวินิจฉัยของศาล ไม่ใช่แค่การถอดถอนนายกฯ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการที่ไม่ให้ประชาชนมีสิทธิเลือก ส.ส.ร. โดยตรงได้ ก็ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ การที่ศาลฎีกามีคำสั่งบังคับให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องเข้าเรือนจำในคดีชั้น 14 ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางการเมืองไทยในอนาคต
3. นโยบายที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเร่งด่วน
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปราะบาง “รัฐบาลอนุทิน” ต้องรีบสร้างผลงานและเรียกคะแนนนิยม ได้มุ่งเน้นนโยบายที่เห็นผลเร็ว อย่างการปัดฝุ่นโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาในเวอร์ชั่นใหม่ โดยเพิ่มโมเดล 60:40 นอกจากนี้ นโยบายด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน
4. แนวโน้มในอนาคต
สถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน รัฐบาลใหม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองภายใต้แรงกดดันจากฝ่ายค้านและความคาดหวังของประชาชน โดยสิ่งที่ต้องจับตามองต่อไปคือ
- รัฐบาลจะสามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับ “พรรคประชาชน” ได้หรือไม่
- คดีที่ดินเขากระโดง ที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีส่วนได้ส่วนเสีย จะดำเนินการต่อไปอย่างไร
- บทบาทของพรรคเพื่อไทยที่กลายเป็นฝ่ายค้าน จะขับเคลื่อนการเมืองไปในทิศทางใด
สรุปแล้ว การเมืองไทยในปัจจุบันเป็นภาพสะท้อนของการต่อสู้ทางอำนาจที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางของประเทศในทุกมิติ

