กล่าวเกริ่นจากท้ายตอนที่ 1 การเดินทางของเต๋และเพื่อนมีอิทธิพลต่อโอ้เอ๋วอย่างเห็นได้ชัด เต๋เองก็ได้รับอิทธิพลจากรุ่นพี่ชมรมการละครเช่นกันตั้งแต่การเรียน การเข้ามาเป็นเบื้องหลังการแสดง อาจจะทำให้ความรู้สึกทั้งคู่มีความเอนเอียงปรับตัวเข้าหากันไม่ค่อยติดกว่าตอนที่รักกันแรก ๆ อาจจะเป็นเงื่อนไขของเวลา การกระทำที่เกิดขึ้นสดใหม่ในอีกฉากหนึ่งของการเริ่มต้นในมหาวิทยาลัยยังปรับกันได้ไม่ลงตัวทำให้เกิดความอึดอัดบางอย่างที่จะสื่อสารออกมาเพราะจากมุมมองที่ลองมองเข้าไปทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาตลอดเมื่อต้องแยกจากกันในการใช้ชีวิตรวมทั้งเรื่องเรียนที่อาจจะอยู่ในมุมเดียวกันแต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกันจนหมดก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจากตัวอย่างตอนต่อไปทิ้งท้ายก่อนจะไปตอนที่ 2
เมื่อผู้ชมเดินทางมาถึงตอนที่ 2 ความเข้มข้นของเนื้อหามีมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมื่อโอ้เอ๋วจะย้ายภาค เมื่อขิมจะเปลี่ยนสายงานเป็นแอร์โฮสเตส หรือใครหลายคนของตัวละครต้องการหาความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะเต๋ที่ต้องการเพื่อนร่วมทางไปในทิศทางเดียวกับเขา แต่ทุกคนทีละคนค่อย ๆ เริ่มจางหายไปหมด ทำให้ตัวเต๋เองคิดว่าเขาเดินทางไปยังจุดหมายเพียงคนเดียว และความโดดเด่นของโอ้เอ๋วที่เผยออกมาผ่านความถนัดที่ตนเองมีจากการเข้าไปนั่งคลาสเรียนภาคโฆษณากับเพื่อนในกลุ่ม สู่การพูดคุยบทสนทนาทั้งหมดจึงเกิดขึ้น
ขึ้นต้นหัวข้อเงื่อนไขอาจจะไม่เหมือนความหมายที่ว่าต้นทุนชีวิตที่ต่างกันทั้งหมดของตัวละคร สำหรับเต๋ คือความพยายามที่จะเป็น แน่วแน่และต้องการคนโอบล้อมเพื่อไปถึงจุดที่คาดหวัง เราจะเห็นได้ว่าเต๋ส่งผลต่อตัวละครต่าง ๆ ไม่ต่างจากโอ้เอ๋ว ขิม และท็อปที่จบปีการศึกษากลายเป็นบัณฑิต เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วนเราจะเห็นได้จากทุกตัวละครที่ถูกสร้างเงื่อนไขขึ้นมาจะเผยปมของตัวเองออกมาเรื่อย ๆ ทีละคนสองคน ทั้งความกดดันตัวเอง การผลักดัน ความเหนื่อย ยอมแพ้และโชคเข้าข้าง
ภายในตอนนี้ศูนย์กลางไม่ได้อยู่ที่เต๋ หรือแทบไม่ได้อยู่เลยด้วยซ้ำ แต่กลับอยู่ที่โอ้เอ๋ว และขิมเป็นหลัก ยกเว้นความเอาแต่ใจ เมื่อสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจของเต๋ แต่กลายเป็นการพาลเพราะกลัวที่จะต้องยอมรับการสูญเสีย ทั้ง ๆที่บุคคลรอบกายของเต๋ยังคงเดินทางไปพร้อม ๆ กัน แต่แค่แบ่งแยกออกคนละเส้นทางที่ถนัด ไม่ได้หมายความว่าเต๋กำลังจะสูญสียใครไกลออกไปตลอดทางการเป็นนักแสดงในความใฝ่ฝันที่เต๋กำลังเดินอยู่
โอ้เอ๋วเริ่มไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำว่าสุดท้าย คือ ความคิดที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ผ่านการเรียนการแสดงที่มีการต่อบท หรือการไปแคสติ้งจากความหวังดีของเต๋ ทำให้โอ้เอ๋วเกิดความกระอักกระอ่วนพูดไม่ถูก สามารถพูดได้ว่าไม่มีความมั่นใจต่อสิ่งที่ตัวเองจะทำเลยด้วยบุคลิกที่น้ำเสียงตัวเองต้องการสื่อสาร และความคิดเห็นที่มีต่อการสวมบทบาท รวมไปถึงบนความคาดหวังของเต๋ที่โอ้เอ๋วต้องแบกรับเกือบทั้งหมดจนกลายเป็นคนอื่น
ส่วนตัวละครอย่างขิมที่มาแคสติ้งคนละบทกับโอ้เอ๋ว และเต๋ด้วยหน้าตาสีหน้าอันที่จริงเรียกได้ว่าความผิดหวังที่เกิดขึ้นจากการถูกปฏิเสธไม่ผ่านการคัดตัวนักแสดง ตัวขิมเองเคยกล่าวเสมอว่าปมของตนเองคือการที่แคสติ้งไม่ผ่านมาตลอด หรืออยากแสดงในบทเด่นบ้าง ไม่ใช่ได้รับแต่บทสมทบที่ค่าตัวไม่มากนัก ภายในตอนนี้จะทำให้เราเห็นมุมมองความคิดความผิดหวังของขิมมากยิ่งขึ้นพร้อมการปลอบประโลมตนเอง และเงื่อนไขชีวิตขิมเช่นกันที่พูดกับเต๋ว่าต้องการความมั่นคง ถึงจะรอโอกาสในการแสดงที่จะเป็นจริงในเป้าหมายของเธอ แต่ก็ไม่ใช่กับสิ่งที่เพ้อฝัน
เมื่อโอ้เอ๋วบอกเต๋เรื่องย้ายภาคว่า จะย้ายไปเรียนโฆษณา ความรู้สึกเต๋อาจจะเริ่มสั่นคลอนจากการพูด การกระทำที่ไม่ยอมรับจนกลายเป็นการพาลอย่างที่กล่าวข้างต้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโต๊ะอาหารในร้านจีนที่เต๋พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกทั้งหมดจนทำให้โอ้เอ๋วหลุดปากพูดอะไรบางอย่างออกผ่านความรู้สึกที่ตนเองกำลังโดนถูกแซะโดยเต๋ ลามจนไปถึงกลุ่มเพื่อนฝั่งโอ้เอ๋ว “มึงก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆป่ะ…” คำพูดที่มีปากเสียงระหว่างกัน
อันที่จริงทั้งสองตัวละครหลักอย่างเต๋และโอ้เอ๋วเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดจนมากพอสมควรทั้งฝั่งด้านสองมหาวิทยาลัยที่วิ่งคู่ขนานกัน สามารถมองได้เห็นจากการหาตัวตนความชอบ หรือสิ่งที่ทำแล้วสบายใจ “กูมีฝันอื่นด้วย” ประโยคแรกจากขิม และ “เงื่อนไขชีวิตคนเราไม่เหมือนกันนะมึง” ประโยคที่สะอึกใจรอบที่สอง สุดท้ายเหมือนเต๋เองก็ยังทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เต๋คงไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าบางคนก็ไม่ได้วิ่งวนโคจรเดียวที่เต๋อยากให้เป็น
วงโครจรทั้งเต๋และโอ้เอ๋วเริ่มแตกต่างกันออกไปทั้งเรื่องการเรียน การดำเนินชีวิตอีกทั้งคนรอบข้างของทั้งคู่ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ บนเส้นทางการปูพื้นเรื่องของตัวละคร พวกเราเหล่าผู้ชมต้องลุ้นและเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงของเต๋และโอ้เอ๋วไปพร้อม ๆ กัน ตัวละครมากมายยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเนื้อหา ความสนุกใหม่ ๆ รวมทั้งตัวละครลับที่อาจจะเข้ามาจีบโอ้เอ๋วในตอนที่ 3 จากการทิ้งตัวอย่างตอนต่อไปท้ายตอนที่ 2 ต้องมาดูกันต่อไปว่าเต๋กับโอ้เอ๋วจะแก้ปัญหานี้ก้าวผ่านอุปสรรคไปพร้อมผู้ชมอย่างไร เมื่อเต๋ต้องไปค้นหาความสัมพันธ์ของตนเองต่อคนรักที่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เต๋มองว่าโอ้เอ๋วเปลี่ยนไปในตอนที่ 3
