ไบโอดีเซล หนึ่งในพลังงานทดแทนที่ช่วยให้เรามีอากาศสะอาดขึ้นทุกครั้งที่เราขับขี่ และช่วยลดการสร้างขยะชีวภาพไปได้ในตัว เนื่องในวันไบโอดีเซล วันนี้ Modernist รวม 5 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับไบโอดีเซลมาให้อ่านกัน
รู้จัก ไบโอดีเซล
ไบโอดีเซล (Biodiesel) คือน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว ไขมันสัตว์ หรือพืช โดยเฉพาะปาล์ม ผ่านกระบวนการทางเคมีร่วมกับแอลกอฮอล์ จนได้เอสเตอร์ (Ester) หรือไบโอดีเซล ที่ให้คุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล จึงสามารถใช้ทดแทนกันได้โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทอื่น
ไม่ใช่แค่ปาล์มน้ำมัน ที่ทำไบโอดีเซลได้
การผลิตไบโอดีเซล ไม่ได้มีแค่พระเอกอย่าง ปาล์มน้ำมัน ที่ใช้ผลิตได้ แต่ยังมีพืชอีกชนิดหนึ่งที่สามารถผลิตได้ และนิยมใช้ในการผลิตไม่ต่างกัน คือ สบู่ดำ ผ่านการสกัดน้ำมันจากเมล็ดสบู่ดำ และสามารถใช้เป็นน้ำมันดีเซลสำหรับเครื่องยนต์การเกษตรได้ทันที
นอกจาก ปาล์มน้ำมัน และสบู่ดำ รวมถึงน้ำมันพืชชนิดต่าง ๆ และไขมันสัตว์แล้ว เรายังสามารถใช้มะพร้าวในการผลิตเป็นไบโอดีเซลได้เช่นกัน
ตัว B ที่อยู่ในชื่อผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล คืออะไร?
ตัว B ที่เรามักเห็นในชื่อน้ำมันดีเซล ตามสถานีบริการน้ำมัน เป็นการเรียกน้ำมันดีเซลที่มีสัดส่วนของน้ำมันไบโอดีเซลผสมอยู่ ดังเช่น น้ำมันดีเซลที่มีความนิยม 3 แบบ คือ ดีเซล B7 B10 และ B20 ซึ่งหมายถึงมีส่วนผสมของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลที่เราเติม ตั้งแต่ 7%, 10% และ 20% ตามลำดับ และน้ำมันแต่ละรูปแบบก็มีความเหมาะสมแตกต่างกันตามประเภทของรถยนต์ที่ใช้งาน
สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันได้มีการปรับมาตรฐานน้ำมันดีเซลใหม่ เป็นมาตรฐาน B10 หรือน้ำมันดีเซลธรรมดา ที่เราเติมกันประจำ ส่วนมาตรฐาน B7 คือ น้ำมันดีเซล B7 เหมาะสำหรับรถเก่าและรถยุโรป และมาตรฐาน B20 หรือ น้ำมันดีเซล B20 ซึ่งเป็นน้ำมันที่ออกแบบมาเป็นทางเลือกสำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่
ประโยชน์ของการใช้ไบโอดีเซล
การใช้น้ำมันไบโอดีเซล ช่วยให้อากาศสะอาดขึ้น เพราะเมื่อเครื่องยนต์สามารถเผาไหม้ได้สมบูรณ์ขึ้น ก็สามารถช่วยลดควันดำ มลพิษทางอากาศ และก๊าซที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม อย่าง คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หรือฝุ่น PM2.5 ได้ ทำให้เรามีอากาศสะอาดขึ้น หายใจได้โล่งขึ้น
นอกจากนี้ น้ำมันไบโอดีเซล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ให้แก่เครื่องยนต์ ค่าแรงบิดเพิ่มขึ้น ให้กำลังเครื่องเพิ่มขึ้นมากกว่าใช้น้ำมันดีเซลอย่างเดียว เพราะไบโอดีเซลมีส่วนผสมของออกซิเจน 10% ทำให้การผสมระหว่างอากาศและน้ำมันกระจายตัวสม่ำเสมอ และเพิ่มอัตราส่วนปริมาณของของอากาศต่อน้ำมันได้เป็นอย่างดี
นักวิเคราะห์ชี้ อุตสาหกรรมไบโอดีเซล ยังมีโอกาสโตต่อเนื่อง
ศูนย์วิจัยกรุงศรี ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา คาดว่า ความต้องการในการใช้ไบโอดีเซลจะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับเฉลี่ย 5.3-5.7 ล้านลิตรต่อวัน จาก 5.1 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อปี 2563 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุน คือ ความต้องการใช้ยานยนต์ในภาคขนส่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เฉลี่ยร้อยละ 3.0 ต่อปี การขยายตัวของธุรกิจ e-Commerce หรือจำนวนรถยนต์ดีเซลสะสมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3.0-4.0% ต่อปี
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องมาตรการสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซลของรัฐ เพื่อผสมในน้ำมันดีเซล B7 B10 และ B20 ซึ่งช่วยเหลือเกษตรกร และผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่มีแนวโน้มพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลให้รองรับการใช้ไบโอดีเซลสัดส่วนที่สูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม วิจัยกรุงศรี ให้มุมมองที่ต้องสังเกตเพิ่มเติมว่า ความไม่แน่นอนของปริมาณวัตถุดิบและราคาที่อาจถูกแทรกแซงจากทางการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร อาจกระทบต่อความสม่ำเสมอของผลประกอบการในอนาคต
