กลิ่นยุบสภาเริ่มชัดเจน เป็นเหตุสังเกตได้ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยกับสื่อ เตรียมยุบสภาต้นเดือนมีนาคม ที่กำลังจะถึง
ครั้งนี้ The Modernist ได้รวบรวมความเห็นตัวอย่างนักวิชาการ 2 คน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับลักษณะที่ ลุงตู่ ประกาศยุบสภาในครั้งนี้
รศ.ดร. สุขุม นวลสกุล อดีอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ผ่านคมชัดลึก
ว่าการแจ้งล่วงหน้าเรื่องการยุบสภาเป็นแทคติกการเมืองอย่างหนึ่ง การยุบสภามีความจำเป็นสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเงื่อนไข ที่ ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งลดลงจาก 90 วัน
หากสภาอยู่ครบวาระ เหลือ 30 วัน เมื่อมีการยุบสภา ทำให้ พรรคการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสในการดึงผู้สมัครฯ ที่มีโอกาสได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง 66 มาสังกัดพรรค เพราะดูจากท่าทีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จริงจังและคาดหวังกับผลการเลือกตั้งมากเห็นได้จากการลงพื้นที่ พบปะประชาชน นอกจากนี้ เมื่อยุบสภาแล้ว
ด้าน รศ.ดร.รศ.ดร.ยุทธพร อิสระชัย อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ผ่าน The Standard ว่า แน่นอนว่าความได้เปรียบทางการเมือง (เรื่องยุบสภา) ต้องอยู่ที่คนตัดสินใจ ก่อนหน้านี้เราเห็นการเปิดตัวของนายกรัฐมนตรีกับรวมไทยสร้างชาติมาระดับหนึ่งแล้ว
เป็นไปตามคาดว่าการบยุบสภาจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ยิ่งยุบสภาใกล้กับวันครบวาระมากเท่าไหร่ การยืดขยายในเรื่องของการรักษาการออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
เป็นเสียงสะท้อนจากนักวิชาการอย่างชัดเจนทีเดียว ว่าหมากเกมนี้ของ ลุงตู่ ที่ลั่นวาจาเตรียมยุบสภา นั้นมีความมั่นอกมั่นใจระดับหนึ่ง ในการเดินหมากทางการเมืองของตนเอง และแน่นอนว่าย่อมได้เปรียบในระดับหนึ่ง
ประสานกับกลิ่นโชยเรื่องยุบพรรค มีกลิ่นตุตุออกมาว่าพรรคไหนที่เป็นเสี้ยนหนามของ ลุงตู่ มีสิทธิที่จะถูกยุบพรรค ถึงกับมีการขุดอดีต คดียุบพรรค บ้านเลขที่ 111 สมัยพรรคไทยรักไทย คดีฮั้วเลือกตั้งจ้างพรรคเล็กๆ แข่งขันเลือกตั้งกับพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ.2548
เป้านี้ย่อมมุ่งเป้าไปที่นักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่ กลุ่มมุ้งต่างๆ รวมถึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้มีสะดุ้งกันอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องสงสัย
ทำเอาอดีตคนเคยถูกยุบพรรคเริ่มหวั่นใจว่าจะไปทางไหน ให้ถูกใจผู้มีอำนาจ เอาเป็นว่าครั้งนี้อย่าเกินหน้า เดินแอคอาร์ตหาเสียงให้มากนัก ไม่งั้นโดยชำเลืองหางตามองเล็งยุบพรรคอย่างแน่นอน
เรียกได้ว่ายังไม่เริ่มสตาร์ทเครื่อง ลุงตู่ ก็ได้เปรียบในการคุมอำนาจรัฐ กำหนดทิศทางเลือกตั้ง ยุบสภา บวกกับปล่อยกลิ่นยุบพรรคมาอีก นักการเมืองหลายคนที่ยังมีภาพจำฝังใจเรื่องยุบพรรค ก็ต้องคิดนานๆ ว่าจะขยับทางไหน เผลอๆ นะเข้าเซฟโซนสะหน่อยเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติเสียเลย จะได้ไม่โดนสกัดดาวรุ่ง
สุดท้ายเพื่อนๆ คิดอย่างไรครับ กับการที่ “ลุงตู่” ประกาศยุบสภา เห็นตามนักวิชาการที่เรายกตัวอย่างมาหรือเปล่า หรือว่าเห็นต่างอย่างไร ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ เพราะ The Modernist เราเชื่อว่าทุกๆ ความคิดเห็นล้วนสำคัญ และส่งผลต่ออนาคตอย่างแน่นอน
