The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / POLITICS / WORLD / “วันเวลาจะอยู่ข้างคนรุ่นใหม่” คำกล่าวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริงในกัมพูชา
POLITICSWORLD

“วันเวลาจะอยู่ข้างคนรุ่นใหม่” คำกล่าวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริงในกัมพูชา

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 1 ส.ค. 2023 14:14
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

ว่ากันว่ายุคนี้เป็นยุคที่คนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมืองและท้าทายผู้มีอำนาจ ซึ่งล้วนแต่เป็นคนรุ่นเก่า แม้บางประเทศจะยังทำไม่สำเร็จ แต่เราก็พอมองเห็นความหวังว่า อีกไม่นาน เวลาจะอยู่ข้างคนรุ่นใหม่ และคนเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนประเทศอย่างเต็มที่ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้อาจใช้ไม่ได้กับประเทศกัมพูชา ที่มี นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวมายาวนานถึง 38 ปี แม้จะมีคนรุ่นใหม่หรือพรรคฝ่ายค้านที่พยายามท้าทายอำนาจอยู่ตลอดเวลา แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโค่นล้มอำนาจเก่าได้ ไม่ต้องพูดถึงในอนาคต เพราะก็ยังมองไม่เห็นเช่นกันว่า คนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดแตกต่างจากฮุนเซน จะได้ก้าวขึ้นมาบริหารประเทศได้อย่างที่หลายคนคาดหวัง

จากการเลือกตั้งในกัมพูชาที่ผ่านมา พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ ซีพีพี ของ นายกฯ ฮุนเซน ที่กวาดชัยชนะไปอย่างถล่มทลาย  ครองเสียงในสภาเกือบทุกที่นั่ง ทว่าไม่ใช่เพราะคะแนนนิยมจากประชาชน แต่เป็นเพราะมาตรการสกัดพรรคฝ่ายค้านในทุกทาง จนทำให้แกนนำฝ่ายค้านต้องหลบหนีไปต่างประเทศ ขณะที่บางพรรคก็ไม่สามารถลงชิงชัยได้ เพราะผิดเงื่อนไข เนื่องจากส่งเอกสารไม่ครบ ส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีพรรคฝ่ายค้านที่เป็นคู่แข่งสำคัญลงสนาม และพรรคของฮุนเซนก็กวาดชัยชนะถล่มทลายไปตามระเบียบ 

นอกจากนี้ ฮุนเซนยังมีทายาทที่พร้อมจะสืบทอดอำนาจต่อจากเขา นั่นคือฮุนมาเนต วัย 45 ปี ลูกชายคนโตของฮุนเซน โดยฮุนเซนจะส่งมอบเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้กับลูกชาย หลังประกาศจะลาออกจากตำแหน่งปลายเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนลูกชายอีกคนคือ ฮุน มานี วัย 40 ปี จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีบริหารราชการพลเรือน 

นอกจากฮุนเซนแล้ว บรรดาคณะรัฐมนตรีที่กอดคอร่วมบริหารประเทศกับฮุนเซนมาอย่างยาวนาน ก็เตรียมสละตำแหน่งไปพร้อมๆ กัน ด้วยอายุที่มากขึ้น และเปิดทางให้บุตรหลานของพวกเขาได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อ ว่ากันว่า เป็นการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูกเกือบยกคณะเลยทีเดียว 

ยกตัวอย่างเช่น 

  • เตีย สีหา ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ วัย 43 ปี ที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมจากพ่อของเขาคือ เตีย บัญ    
  • ซาร์ สุขะ วัย 43 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะได้รับมอบเก้าอี้รัฐมนตรีมหาดไทยจากพ่อ คือ ซาร์ เค็ง 
  • จาม นิมล วัย 43 ปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำกระทรวงพาณิชย์ ก็จะได้รับมอบตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์จากพ่อของเธอ คือ จาม ประสิทธิ์ ซึ่งครองเก้าอี้นี้มานานหลายสิบปี  
  • ส่วน ซก อาน และ เจีย ซิม สองสมาชิกพรรคซีพีพีรุ่นเก๋า ที่แม้จะเสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ แต่ลูกๆ ของพวกเขาก็ได้เข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้ด้วยเช่นกัน  
  • ดิธ ตินา บุตรชายวัย 44 ปี ของประธานศาลสูงสุด ดิธ มุนธี ก็ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเกษตรตั้งแต่ปีที่แล้ว  
  • สาย สามาล วัย 43 ปี บุตรชายของประธานวุฒิสภา สาย ชุม ได้เป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2013  

การสืบทอดอำนาจรัฐมนตรีจากพ่อสู่ลูก เป็นแนวคิดของนายกรัฐมนตรี ฮุนเซน ที่ดึงดูดให้ลูกพรรคเห็นดีเห็นงามกับเครือข่ายความมั่งคั่งและระบอบอุปถัมภ์ที่พวกเขาวางไว้ และรักษาระบอบเหล่านี้ไว้ โดยการให้ลูกๆ ของสหายสนิทซึ่งได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรีมาพร้อมๆ กับฮุนเซน ได้ยึดครองเก้าอี้กระทรวงนั้นต่อไป

แนวคิดปีศาจแห่งกาลเวลาที่จะกลืนกินทุกสิ่งอย่าง รวมถึงคนรุ่นเก่าให้หายไปจากการเมือง และเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนประเทศต่อไป  จึงอาจถูกแค่เพียงครึ่งเดียว  เพราะคนรุ่นใหม่ที่ได้เข้ามา ก็คือเชื้อสายของคนรุ่นเก่าที่เสียชีวิตไป  ดังนั้น ความหวังที่จะเห็นประเทศกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้  แม้จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ไม่ใช่ฮุนเซนก็ตาม

ที่มา : rfa.org

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:CambodiaThe Modernistกัมพูชาการเมืองต่างประเทศนายกรัฐมนตรีฮุนเซนประชาชนกัมพูชาฮุนเซน
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article ถอดวิธีบริหารคน ของ ผอ.กูวอน จาก “King The Land” 
Next Article ปราบต์ : จาก “เขียนเพื่ออยู่” สู่ “เขียนเพื่อเปลี่ยนแปลง”
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

เฟมินิสต์? หยิ่งทะนง? หลงตัวเอง? ตัวตนของ ‘แพง อรุณรัศมี’ จาก ‘มาตาลดา’ ทำเสียงวิจารณ์แตกเป็นสองฝั่ง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

Next Station ??? สถานีต่อไป รถไฟฟ้าอยู่ตรงไหนล่ะเนี่ย

By adisak.mha
INSIGHTPOLITICS

#มีกรณ์ไม่มีกู ฤทธิ์เดช “แฟนด้อม” ที่ทำให้พรรคการเมืองทำตามอำเภอใจไม่ได้อีกต่อไป

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTPOLITICSSOCIAL

เทียบเสียงโซเชียลกับผลโพล = “ยุบสภา”

By Srawut
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.