The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / POLITICS / “ฮุนเซน” ทัศนา “พิธา” และการเมืองไทย หรือการเลือกตั้งจะเป็นแค่พิธีกรรม
POLITICS

“ฮุนเซน” ทัศนา “พิธา” และการเมืองไทย หรือการเลือกตั้งจะเป็นแค่พิธีกรรม

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 6 ส.ค. 2023 14:52
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

เรื่อง ศรายุทธ อาตวงษ์

*บทความนี้ เขียนขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกัมพูชาในวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ข้อมูลอาจมีความคลาดเคลื่อนและไม่เป็นปัจจุบัน หากข้อมูลผิดพลาดอันใด ทางผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้*

การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 หลายคนต่างตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อ  ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่? เพราะต้องใช้เสียงโหวตเลือกนายกฯ ในรัฐสภา ที่ต้องใช้เสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร่วมกันให้ได้ 376 เสียง 

แต่แล้วก็เหมือนอย่างที่พี่กบ ทรงสิทธิ์ ได้ร้องไว้ว่า “มันน่าเสียดาย……ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง”

เมื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เสียงโหวตจากทั้ง ส.ส. 311 เสียง ของ 8 พรรคร่วม และ สว. 13 เสียง รวมทั้งสิ้น 324 เสียง ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภาคือ 376 เสียง  ทำให้นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้  ต้องมาลุ้นอีกว่าการโหวตเลือกนายกฯ ในรัฐสภาที่จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 นั้น ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลล่าสุดได้มีการสั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปเป็นวันที่ 4 สิงหาคม 2566 และจนกระทั่งบัดนี้ เราก็ยังไม่มีนายกฯ อย่างเป็นทางการ

การที่นายพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สร้างความไม่พอใจแก่ผู้เชียร์พรรคก้าวไกล และผู้เชียร์พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก มีการนัดชุมนุมทั้งในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ต่างจังหวัด  เพื่อแสดงจุดยืนให้สมาชิกรัฐสภารับนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้ระบอบประชาธิปไตยไปต่อได้

แต่อยู่ๆ หลังจากการโหวตเลือกนายกฯ ไปนั้น ในวันเดียวกันก็มีข่าวว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ได้ทวีตข้อความลงในทวิตเตอร์ มีใจความว่า การที่นายพิธาไม่ได้ถูกรับเลือกเป็นนายกฯ นั้น “ถือเป็นความพ่ายแพ้ของพวกกลุ่มฝ่ายค้านอันชั่วร้ายในกัมพูชา”

Cambodian leader Hun Sen used #Thailand’s prime minister's voting results to criticise his opposition today.#Cambodia pic.twitter.com/8DeOfdEDIn

— Thai Enquirer (@ThaiEnquirer) July 13, 2023

ฮุนเซนบอกว่า ตนไม่ได้ต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศไทย เพียงแต่ต้องการจะบอกไปถึงกลุ่มฝ่ายค้านที่พยายามจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่มั่นในการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักรกัมพูชา และตอนนี้ความคาดหวังของฝ่ายค้านก็ได้มลายหายไปราวกับเกลือในน้ำ และเตือนว่า จงอย่าทำการเมืองโดยหวังพึ่งมือของคนอื่น 

หลังจากที่ข่าวนี้ถูกนำเสนอไป ผู้ใช้โซเชียลชาวไทยก็ได้สามัคคีแสดงความคิดเห็นประมาณว่า ฮุนเซนไม่ควรเข้ามายุ่งกับการเมืองไทย หรือต่อว่าว่าเป็นผู้นำเผด็จการแบบเดียวกับอดีตนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยต่อมาทวีตดังกล่าวก็ได้ถูกลบไปแล้ว และสมเด็จฮุนเซนฯ ก็ได้ทวีตใหม่ว่าตนได้รับข้อความจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทยเป็นจำนวนมาก แต่ตนไม่เข้าใจภาษาไทย โดยฮุนเซนยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้มีปัญหากับพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพร้อมจะทำงานร่วมกับผู้นำคนใหม่ของไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน เพียงแต่ต้องการจะสื่อไปถึงพวกกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายค้านที่ใช้ชื่อของนายพิธา และดินแดนประเทศไทยในการโจมตีประเทศกัมพูชาเท่านั้น 

ល្ងាចម្សិលម៉ិញខ្ញុំបានបង្ហោះសារមួយដែលមានន័យថា ការដែលលោក Pita មិនបានជាប់ឆ្នោតជានាយករដ្ឋមន្ត្រីថៃ វាជាបរាជ័យរបស់ក្រុមប្រឆាំងជ្រុលនិយមនៅកម្ពុជា… pic.twitter.com/RaxMXQuL9U

— Hun Sen (@hunsencambodia) July 14, 2023

นับตั้งแต่เพจเฟสบุ๊กสมเด็จฮุนเซนฯ ถูกระงับการใช้ไป 6 เดือน โดยคณะกรรมการกำกับดูแลแพลตฟอร์มของเมตา (Meta) หลังจากได้โพสต์คลิปการปราศรัยที่โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง ทำให้สมเด็จฮุนเซนฯ ขู่ว่าจะสั่งปิดการเข้าถึงเพจเฟสบุ๊กทั้งประเทศ แต่ตนนั้นเลือกที่จะไม่ทำ เพราะเห็นแก่ประชาชนที่ยังใช้งานอยู่ สมเด็จฯฮุนเซน จึงลงไปเล่นในแพลตฟอร์มอื่น อย่าง เทเลแกรม ติ๊กตอก และยังทำแอปพลิเคชั่นสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่อัปเดตการเคลื่อนไหวของสมเด็จฯฮุนเซน จนมาถึงการใช้ทวิตเตอร์ที่เปิดไว้ตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งได้กลับมาใช้อีกครั้งหลังจากการสั่งระงับการใช้เฟซบุ๊กของสมเด็จฮุนเซนฯ จนนำไปสู่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ 

เราจะเห็นว่าการเคลื่อนไหวของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่มีต่อไทยนั้น เป็นเพียงการส่งสารไปถึงบรรดาฝ่ายค้านที่พยายามต่อต้านฮุนเซน ทั้งในและนอกประเทศ อันเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ทางการเมืองในกัมพูชาระหว่างฝ่ายฮุนเซน และฝ่ายค้าน ซึ่งมีนาย สม รังสี เป็นผู้นำหลัก ซึ่งหนักหน่วงขึ้นในห้วงเวลาที่กัมพูชากำลังจะมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไร รัฐบาลก็ยิ่งใช้อำนาจจัดการฝ่ายตรงข้ามมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากการเคลื่อนไหวของสมเด็จฯ ฮุนเซนในทวิตเตอร์แล้ว จะเห็นได้ว่าทางนายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือ CNRP ที่ได้ลี้ภัยออกจากประเทศกัมพูชาไปยังประเทศฝรั่งเศส ก็ได้ใช้ทวิตเตอร์ในการสื่อสารไปถึงผู้ใช้โซเชียลชาวกัมพูชา ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงฉากหน้าสำหรับการสืบทอดอำนาจของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่จะส่งต่ออำนาจให้กับลูกชาย ฮุน มาเน็ต โดยนายสม รังสี ได้บอกวิธีการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยการให้ทำการกากากบาทตัวใหญ่บนบัตรเลือกตั้ง เพื่อเป็นการแสดงว่าไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้

The reason the flaws were possible is that the votes were counted behind closed doors by CPP officials. This time there must be transparency in the counting and reporting of spoiled ballots. #SamRainsy https://t.co/pAmP3GDydM pic.twitter.com/Ovt08PIpkG

— Rainsy Sam (@RainsySam) July 22, 2023

นับจากการที่ศาลสูงกัมพูชาได้ยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือ CNRP ของสม รังสี ใน พ.ศ. 2560 แล้ว ได้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปใน พ.ศ. 2561 ทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 125 ที่นั่ง ทำให้กัมพูชากลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีพรรคฝ่ายค้าน และการเลือกตั้งถูกมองว่าเป็นเพียงฉากหน้าสำหรับการสืบทอดอำนาจของฮุนเซน มาตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ 

การเลือกตั้งสภาท้องถิ่น พ.ศ.2565 ที่พรรคประชาชนกัมพูชา ของสมเด็จฮุนเซน ชนะได้เสียงมากถึง 74% ขณะที่พรรคแสงเทียน (Candlelight Party) ได้คะแนนเสียงเพียง 22%  แต่ก็เป็นตัวเลือกที่พอรับได้สำหรับการอยู่รอดของฝ่ายค้าน แต่สำหรับฮุนเซนแล้วถือว่าน่ากังวล เพราะสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือคอมมูนนั้น สามารถเข้าไปเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาได้ และอาจทำให้พรรคแสงเทียนของสม รังสี กลับมาอยู่ในห้วงการเมืองกัมพูชาอีกครั้ง 

จนกระทั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของกัมพูชา ได้ตัดสิทธิ์พรรคแสงเทียน เพียงเพราะส่งเอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน 

แน่นอนว่า กกต. ของกัมพูชานั้นเป็นองค์กรอิสระคล้ายกับประเทศไทย แต่การแต่งตั้งคณะกรรมการนั้นเอื้อประโยชน์ให้กับผู้มีอำนาจ โดยจะเลือกผู้มีคุณสมบัติ 9 คน โดย 4 คนมาจากเสียง ส.ส. ในพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล และ 4 คน มาจาก ส.ส. ของพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน และ 1 คน ต้องมาจากการยอมรับจากเสียงทั้งในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งสภาผู้แทนราษฎรเป็นของพรรคประชาชนกัมพูชา หรือพรรคของฮุนเซนฯ 

รวมทั้งองค์กรศาลก็ได้ถูกใช้ในการจัดการผู้นำฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นับตั้งแต่ดำเนินคดีกับนายสม รังสี อดีตผู้นำพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่ถูกดำเนินคดีทั้งข้อหากบฏ พยายามล้มรัฐบาลกัมพูชา จนต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ และยังให้ศาลกัมพูชาดำเนินคดีกับ นายเขม โสกา จากความผิดข้อหาก่อกบฏ ถูกสั่งให้กักตัวภายในบ้านเป็นเวลา 27 ปี

ยังไม่รวมถึงการจัดการคนเห็นต่างที่ต่อต้านรัฐบาลฮุนเซนฯ อย่างจากทวิตเตอร์ของนายสุนัย ผาสุขและนายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส. พรรคเป็นธรรม ที่ได้ทวีตว่า มีข่าวการจับกุมนาย Thol Samnang บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยตำรวจนอกเครื่องแบบ หลังจากพยายามเดินทางไปขอความช่วยเหลือในการลี้ภัยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) โดยนาย Thol Samnang เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนพรรคแสงเทียน พรรคฝ่ายค้านหลักที่ต่อต้านรัฐบาลฮุนเซน โดยทั้งจากทวีตของนายสุนัย ผาสุข และนายกัณวีร์ สืบแสง ได้พูดถึงความกังวลว่า รัฐบาลไทยอาจส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ และกล่าวถึงประเด็น พรบ.ต่อต้านการทรมาน และอุ้มหาย รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ห้ามไม่ให้ส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศ เพราะกังวลว่าผู้ลี้ภัยอาจได้รับโทษที่ไม่เป็นธรรม

ด่วน! อย่าบังคับส่งกลับผู้ลี้ภัยชาว #กัมพูชา! Thol Samnang นักการเมืองฝ่ายค้านพรรคแสงเทียนที่รัฐบาล #ฮุนเซน ไล่ล่า ถูกจับกลางกรุงเทพ ตอนนี้คุมตัวไว้ที่ ต.ม.สวนพลูเตรียมส่งกลับ … พรบ.ต่อต้านการทรมาน และอุ้มหาย รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศห้ามส่งบุคคลไปเผชิญอันตราย! @HRW… pic.twitter.com/wKD8PHJZKr

— Sunai (@sunaibkk) July 8, 2023

วันนี้มีข่าวการควบคุมตัวและความพยายามผลักดันนักกิจกรรมชาวกัมพูชาจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลที่หลบหนีมายังประเทศไทยกลับประเทศ มีรายงานว่านาย Thol Samnang ถูกควบคุมตัวโดยคนนอกเครื่องแบบใน กทม. ขณะเดินทางไปพบ UNHCR แต่รายละเอียดยังไม่แน่ชัดว่า ถูกควบคุมตัวเมื่อไหร่และอย่างไร pic.twitter.com/H2GQBOhFGC

— กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang (@nolkannavee) July 8, 2023

นอกจากนี้ ในช่วงก่อนเลือกตั้ง สมเด็จฯ ฮุนเซนยังได้มีการสั่งปิดสื่อที่พยายามจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสมเด็จฯ ฮุนเซน อย่างในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำการปิดสื่อ Voice of Democracy (VOD) สื่ออิสระแห่งสุดท้ายของกัมพูชา หลังจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้กล่าวว่า สื่อแห่งนี้ได้เขียนโจมตีฮุน มาเน็ต ลูกชายของสมเด็จฮุนเซนฯ เรื่องการเซ็นอนุมัติเงินบริจาคช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี โดยตามระเบียบแล้วต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่จะเซ็นอนุมัติได้

สรุปได้ว่า การที่สมเด็จฮุนเซนฯ ได้ใช้เรื่องที่นายพิธา ไม่ผ่านการโหวตนายกรัฐมนตรีขึ้นมาโจมตีเย้ยหยันฝ่ายตรงข้ามตัวเองนั้น เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการที่ตัวเขาถนัดใช้ในการไต่ขึ้นสู่อำนาจ และรักษาอำนาจ รวมทั้งการทำลายฝ่ายตรงข้ามให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินกัมพูชา 

“การเลือกตั้งกัมพูชาในวันที่ 23 กรกฎาคม จึงเป็นเพียงแค่พิธีกรรมสำหรับการสร้างความชอบธรรมทางอำนาจของสมเด็จฮุนเซนฯ”

แหล่งอ้างอิง : bbc 2 / dw / voathai / cambojanews / thairath / thaipbs / nec / ilaw / dailynews

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:The Modernistกัมพูชาจัดตั้งรัฐบาลนายกนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลพิธาฮุนเซนเลือกตั้ง 2565
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article สูงวัยแต่ยังมีไฟทำงาน! เกาหลีใต้จ้างงานผู้สูงอายุมากกว่า 3 แสนอัตรา
Next Article เปิดรายชื่อ 10 อันดับ แบรนด์ 29 กลุ่มธุรกิจ ที่ทำผลงานสูงสุดบนโลกโซเชียลครึ่งแรกของปี 2566 
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

BUSINESS

จับตา “ตลาดคนอยากนอน” เทรนด์เศรษฐกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติมโตสูง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

“AUTTA” กับการทดลองทางดนตรีในห้อง 704

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

ดึงสติรัฐบาลประยุทธ์ ‘หยุดใส่เกียร์ว่าง’ ช่วงตั้งรัฐบาลใหม่

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTPOLITICS

วิเคราะห์ผลโพลดัชนีการเมืองไทย ฝ่ายค้านผลงานโดดเด่น ตรวจสอบรัฐบาล

By Srawut
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.