The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / WATCH / กรองก่อนเชื่อ / ทำไมคนเชื่อข้อมูลในไลน์มากกว่าการอ่านข่าว
WATCHกรองก่อนเชื่อ

ทำไมคนเชื่อข้อมูลในไลน์มากกว่าการอ่านข่าว

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 7 ก.ย. 2022 22:51
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทุนการผลิตผลงานโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์


ในอดีตหากพูดถึงการส่งผ่านข้อมูลจากพื้นที่หนึ่งสู่พื้นที่หนึ่งซึ่งกว้างกว่า เราก็มักจะนึกถึงการกระจายข้อมูลผ่านสื่อมวลชนกระแสหลัก เช่น วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ในปัจจุบันภูมิทัศน์สื่อได้เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ด้วยตนเองแล้ว และที่สำคัญเรามีสมาร์ทโฟนที่สามารถทำงานได้มากมาย นั่นจึงทำให้ขั้นตอนในการกระจายข่าวลดน้อยถอยลงไป กลับกันการมีสิ่งที่ทำให้สามารถกระจายข่าวได้เร็วขึ้นก็ย่อมส่งผลร้ายในการขาดการตรวจสอบข่าวที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ปัญหาการส่งต่อข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงจึงเกิดขึ้นในช่วงสมัยที่เทคโนโลยีรู้จักคำว่า “สื่อสังคมออนไลน์” หรือ SNS (Social Network Services) โดยเฉพาะเทคโนโลยีในการรับส่งข้อมูลที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบ SMS (Short Message System) หรือ MMS (Multimedia Message System) โดยเสียค่าใช้จ่ายอีกต่อไป โดยข้อมูลจาก We Are Social ที่ได้ทำการสำรวจไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่าคนไทยมีปฏิสัมพันธ์บนสื่อสังคมออนไลน์รวมกันทุกแพลตฟอร์มมากถึง 56.85 ล้านคน และยังพบว่าอินเตอร์เน็ตเข้าถึงกลุ่มประชากรโดยรวมแล้วถึง 70.01 ล้านคน และใช้เวลาในการใช้สื่อสังคมออนไลน์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.59 ชั่วโมงต่อวัน

และถ้ามองถึงข้อมูลลงไปจะพบว่าคนไทยใช้ LINE อยู่อันดับที่ 2 (ร้อยละ 92.8) ซึ่งเป็นรองแค่ Facebook เท่านั้น (ร้อยละ 93.3) ในขณะที่อันดับที่ 3 ก็เป็นผู้ให้บริการด้านการรับส่งข้อความอย่าง Facebook Messenger (ร้อยละ 84.7)

สุภิญญา กลางณรงค์ ได้ให้ข้อมูลผ่านจุลสารราชดำเนินในตอนหนึ่งว่า ข้อมูลที่ทำให้คนตื่นตระหนกโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือการส่งต่อข้อมูลจากไลน์กลุ่ม เนื่องจากที่ผ่านมามีประเด็นการสร้างความเข้าใจที่ผิดในหลายเรื่องราว แต่ไม่สามารถหาต้นตอได้ ซึ่งการที่หาต้นตอไม่ได้นั่นอาจจะสามารถคาดการณ์ได้ว่ามาจากแพลตฟอร์มไลน์ โดยเฉพาะไลน์กลุ่มต่างๆ เนื่องจากแพลตฟอร์มไลน์เป็นแพลตฟอร์มปิด ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลต้นทางได้ ซึ่งพฤติกรรมของผู้ที่ส่งต่อข้อมูลนั่นก็คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป และส่วนใหญ่แชร์เรื่องสุขภาพ เพราะเป็นห่วงลูกหลาน นั่นอาจจะเปรียบได้ว่าไลน์กลุ่มเป็นต้นตอของ “คลัสเตอร์ข่าวลวง” ก็ว่าได้

หากจะยกตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้น ก็คงมาจากตัวคุณแม่ของผู้เขียนเองที่ได้เข้าไปอยู่ในไลน์กลุ่มต่างๆ เช่น ไลน์กลุ่มสถานที่ทำงาน หรือไลน์กลุ่มโควิด-19 และมีการแชร์ข่าวเป็นจำนวนมากจนบางครั้งไม่สามารถสืบค้นความจริงได้ คุณแม่จึงได้ส่งข้อมูลมาเพื่อสอบถามหลายครั้ง เช่น การที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ตรงกับที่รายงาน หรือเชื้อที่กลายพันธุ์ เป็นต้น ผู้เขียนจึงไปหาข้อมูลเพื่อมาช่วยคุณแม่ได้รวดเร็วและทัน แต่ในบางข่าวก็ไม่สามารถสืบค้นความจริงได้ เนื่องจากเป็นความคิดเห็นมากกว่าความจริง ซึ่งนอกเหนือจากการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักข่าวต่างๆ แล้ว เรายังมีศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ของ MCOT หรือ Cofact ที่เราสามารถค้นหาข้อมูลข่าวลวงได้ทันที

และถ้าลองแกะออกมาดูสาเหตุกันจริงๆ จะพบว่าสาเหตุที่การส่งต่อข้อมูลผ่านทางไลน์น่าเชื่อถือกว่าการอ่านข่าว มีเหตุผลรองรับดังต่อไปนี้

  1. เพราะว่าข้อมูลที่ส่งต่อกันมา เกิดมาจากคนที่น่าไว้วางใจ
  2. ข้อมูลที่ถูกส่งต่อมาเป็นข้อมูลที่อยู่ในความสนใจของผู้คนในตอนนั้น
  3. ข้อมูลพาดหัวข่าวมีความน่าสนใจจนขาดการอ่านเนื้อหา

ฉะนั้น เราในฐานะคนที่แชร์ ก่อนที่จะส่งต่อข่าวออกไป เราควรทำสิ่งต่อไปนี้ให้เป็นกิจวัตรเสมอ ได้แก่

  1. ค้นหาต้นตอข่าวอยู่เสมอว่ามาจากแหล่งน่าเชื่อถือหรือไม่
  2. คัดลอกข้อมูลบางส่วนใน Google เพื่อตรวจที่มา
  3. ตรวจสอบวันที่เผยแพร่ว่าเป็นข้อมูลล่าสุดหรือไม่

ถ้าหากไม่มีข้อใดข้อหนึ่ง ให้ถือว่าไม่สามารถแชร์ต่อได้นั่นเอง

หยุดสักนิด ตั้งสติก่อนแชร์
เพื่อสังคมไทยที่มีคุณภาพต่อไป

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:cofactกรองก่อนเชื่อกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ข่าวชัวร์ก่อนแชร์รู้ทันสื่อกับส่องสื่อสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์เชื่อข่าวไลน์
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article พูดคุยกับ Dept วงดนตรีอินดี้ป๊อบที่เชื่อมั่นในความเป็นตัวเอง
Next Article คุยกันอย่างไรไม่ให้ทะเลาะกัน เมื่อต่างคนต่างเชื่อคนละแบบ
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

IN FOCUSWATCH

การกลับมาของสรยุทธในฐานะนักข่าวเบอร์หนึ่งของประเทศไทย

By ระวี ตะวันธรงค์
IN FOCUSWATCH

คอนเทนต์ครีเอเตอร์กับจรรยาบรรณที่หายไป (และควรมี) ?

By adisak.mha
CALENDARPOLITICS

1 ตุลาคม 2534 : กำเนิดรายการเด็กที่ทุกคนรัก “เจ้าขุนทอง”

By ระวี ตะวันธรงค์
REWINDWATCH

เมื่อมาสเตอร์เชฟ 5 เอาผู้แข่งขันที่ติดโควิดกลับมา กับการสะท้อนภาพโควิดในสังคมไทย

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.