The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / ข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐฯ ทำกับ 4 ประเทศ เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?
EditorINSIGHTPOLITICS

ข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐฯ ทำกับ 4 ประเทศ เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?

Srawut
Last updated: 31 ต.ค. 2025 11:57
Srawut
Share
SHARE

“วิเคราะห์เชิงลึกข้อตกลงแร่หายากที่สหรัฐฯ ทำกับ ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย แตกต่างกันอย่างไรในเชิงยุทธศาสตร์ กฎหมาย และเศรษฐกิจ? ใครได้ประโยชน์มากที่สุดในเกมห่วงโซ่อุปทานโลก”

สหรัฐอเมริกาเร่งสร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน “แร่หายาก” หรือ “แร่ที่สำคัญ” กับประเทศต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก (ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย) ด้วยเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพียงหนึ่งเดียว การสร้างความมั่นคงของอุปทานและจำกัดอิทธิพลของผู้ผลิตที่ครองตลาด ในอุตสาหกรรมการแปรรูปแร่ที่สำคัญ

การลงนามในข้อตกลงเหล่านี้แสดงให้เห็นการวางหมากที่ซับซ้อนของสหรัฐฯ โดยแบ่งคู่ค้าออกเป็นสองกลุ่มหลัก ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้าน สถานะทางกฎหมาย และ กลไกการผูกมัดทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการวิเคราะห์นี้

1. จุดร่วม: การสร้าง “Strategic Bloc” เพื่อความมั่นคงทางอุปทาน

ไม่ว่าข้อตกลงจะมีรูปแบบใด สหรัฐฯ กำลังดำเนินการเพื่อสร้าง “กลุ่มยุทธศาสตร์ของคู่ค้าด้านแร่ที่สำคัญ”ที่ทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระดับโลก:

เป้าหมายการกระจายความเสี่ยง: สหรัฐฯ ตระหนักดีว่าการพึ่งพาผู้แปรรูปรายใหญ่เพียงรายเดียวคือความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ที่ยอมรับไม่ได้ ข้อตกลงจึงมุ่งเน้นการเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานให้ยืดหยุ่น โดยเฉพาะในส่วนของการแปรรูป ซึ่งเป็นจุดที่มีอำนาจต่อรองสูงสุดในตลาดโลก

การสร้างมาตรฐานตลาดใหม่: สหรัฐฯ พยายามสร้างกลไกที่มุ่งจัดการกับความเสี่ยงจากการบิดเบือนราคาและการปฏิบัติทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ โดยสหรัฐฯ ต้องการผลักดันให้เกิดมาตรฐานตลาดใหม่ และใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจเพื่อรองรับโครงการทางเลือกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตน

2. สถานะทางกฎหมายและกลไกผูกมัด

ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดคือรูปแบบของเครื่องมือที่สหรัฐฯ เลือกใช้ ซึ่งสะท้อนความลึกซึ้งของการบูรณาการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของตน

กลุ่มที่ 1: Frameworks และ Agreements การผูกมัดเชิงกฎหมายและการเงิน (ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย)

ข้อตกลงกับสองประเทศนี้ถูกออกแบบให้เป็นกลไกที่ผูกพันทางปฏิบัติสูง และมีการใช้อำนาจทางกฎหมายและเงินทุนจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่ง

(1) ญี่ปุ่น: Framework (CMA) และอำนาจกฎหมายเทียบเท่า FTA

สหรัฐฯ ลงนามใน United States-Japan Framework for Securing the Supply of Critical Minerals ซึ่งถูกเรียกว่า Critical Minerals Agreement (CMA) และที่สำคัญคือ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำหนดให้มีสถานะ อำนาจทางกฎหมายที่เทียบเท่า FTA (ข้อตกลงการค้าเสรี)

กลไกนี้เป็นหัวใจสำคัญทางยุทธศาสตร์: การให้สถานะเทียบเท่า FTA มีเป้าหมายเพื่อ บีบให้ห่วงโซ่อุปทาน EV ของญี่ปุ่นต้องหันมาใช้แร่จากแหล่งทางเลือก เพื่อแลกกับ เครดิตภาษี EV สูงสุด 7,500 ดอลลาร์ ภายใต้กฎหมาย Inflation Reduction Act (IRA) นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมุ่งควบคุมความเสี่ยงโดยการเสริมสร้างกลไกการทบทวนการลงทุนขาเข้าและขาออก

(2) ออสเตรเลีย: Landmark Framework และการค้ำประกันกลาโหม

ถูกลงนามในชื่อ Landmark Critical Minerals Framework ซึ่งมีผลผูกพันทางปฏิบัติสูง รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งใจจะลงทุนร่วมกับออสเตรเลีย มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และให้การค้ำประกันสินเชื่อกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่าน Export-Import Bank

ข้อตกลงนี้เชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับมิติกลาโหม โดยมีการลงทุนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในโรงกลั่นแกลเลียมในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแร่ที่สำคัญต่อยุทโธปกรณ์ และเชื่อมโยงกับการสนับสนุนกลุ่ม AUKUS

กลุ่มที่ 2: การเข้าถึงอย่างยืดหยุ่นผ่าน MOU (ไทย และ มาเลเซีย)

ข้อตกลงกับประเทศในอาเซียนใช้รูปแบบที่ยืดหยุ่นกว่า คือ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประเทศเหล่านี้สามารถรักษาความเป็นอิสระทางนโยบายได้ โดย MOU เหล่านี้ ไม่ได้มีเจตนาให้ผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ แต่เน้นความร่วมมือในการถ่ายโอนเทคโนโลยีและการปฏิรูปธรรมาภิบาลเพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชน

(1) มาเลเซีย: เกราะป้องกันราคาสำหรับการแปรรูปที่มีอยู่

มาเลเซียมีความสำคัญในฐานะฐานการแปรรูปแร่หายาก (Midstream Processing) ที่มีอยู่แล้ว (เช่น โรงงาน Lynas) สหรัฐฯ จึงมอบ มาตรการเชิงยุทธศาสตร์ ที่เฉียบคมใน MOU นั่นคือ กลไกกำหนด “ราคาพื้น (price floors) หรือมาตรการที่คล้ายกัน” ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อ รับมือกับการตัดราคา และรับประกันความสามารถในการทำกำไรของโรงงานที่ไม่ใช่ผู้ผลิตที่ครองตลาด

(2) ไทย: การขยายฐานเทคโนโลยีและศักยภาพในอนาคต

MOU กับไทยเน้นการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี การวิจัยและการรีไซเคิล การสร้างศักยภาพด้าน การแปรรูปและการรีไซเคิล ตลอดวงจรชีวิตของแร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ ในมิติเศรษฐกิจ

(3) ความแตกต่างเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างมาเลเซียและไทย

– มาเลเซีย: ได้รับ กลไกป้องกันราคาพื้น โดยเน้นการปกป้อง ฐานการแปรรูปที่มีอยู่ ซึ่งเป็นส่วนกลางของห่วงโซ่อุปทานทางเลือก

– ไทย: มุ่งเน้นไปที่ การพัฒนาศักยภาพด้านการแปรรูปและการรีไซเคิล ในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีเหมืองแร่หายากเชิงพาณิชย์ การสนับสนุนจึงเน้นไปที่การถ่ายโอนเทคโนโลยีและการเพิ่มมูลค่าภายในประเทศ

3. บทสรุป: การใช้ความหลากหลายเป็นพลังในการช่วงชิงอำนาจ

ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในการแข่งขันด้านแร่นี้ใช้ความหลากหลายของอาวุธ:

สำหรับกลุ่มบูรณาการ (ญี่ปุ่น/ออสเตรเลีย): ใช้กลไกผูกมัดทางกฎหมายและอำนาจทางการเงินที่เชื่อมโยงกับความมั่นคงโดยตรง เพื่อสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งและรวดเร็ว

– สำหรับกลุ่มยืดหยุ่น (ไทย/มาเลเซีย): ใช้ความยืดหยุ่นของ MOU และมอบเครื่องมือเชิงนโยบายที่เฉียบคม (เช่น ราคาพื้นในมาเลเซีย) เพื่อสร้างเกราะป้องกันทางการค้า ทำให้ประเทศเหล่านี้สามารถเข้าร่วม “Strategic Bloc” ได้โดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยทางนโยบายมากเกินไป

นี่คือเกมหมากรบที่ใช้ทรัพยากรเป็นเครื่องมือในการต่อรองอำนาจ ซึ่งความหลากหลายในการใช้เครื่องมือย่อมหมายถึงความยืดหยุ่นที่ยั่งยืนในการเผชิญหน้ากับคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article APEC 2025 ที่เกาหลีใต้: การประชุมครั้งนี้ สำคัญกับไทยอย่างไร ?
Next Article ราคาทองกลับสู่ขาขึ้น และจะสูงขึ้นต่อเนื่องหรือไม่ ?
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

POLITICS

กา “ก้าวไกล” ประเทศไทยมีอะไรไม่เหมือนเดิมบ้าง ?

By ระวี ตะวันธรงค์
POLITICSWORLD

4 ทางม้าลายอัจฉริยะ ออกแบบดี เป็นมิตรกับคนข้าม

By adisak.mha
Editor

คุยเรื่ององค์กรที่ทุกคนเป็นเจ้าของกับเพจพูด

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

ส่องโปสเตอร์หนัง “MONDO รัก | โพสต์ | ลบ | ลืม” ผลงานเรื่องใหม่จาก “มะเดี่ยว-ชูเกียรติ”

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.