The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / เจาะลึกผลโพล ภูมิใจไทย อันดับ 1 ความหวังแก้เศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นที่เปราะบาง
EditorINSIGHTPOLITICS

เจาะลึกผลโพล ภูมิใจไทย อันดับ 1 ความหวังแก้เศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นที่เปราะบาง

Srawut
Last updated: 13 ต.ค. 2025 17:52
Srawut
Share
SHARE

วิเคราะห์ผลโพล “สวนดุสิตโพล” ในหัวข้อ “ณ วันนี้ประชาชนคิดว่าพรรคการเมืองใดที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้” นัยยะในผลสำรวจ ที่สะท้อนความรู้สึกของประชาชน

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา สวนดุสิตโพลได้เผยแพร่ผลสำรวจ “นโยบายเศรษฐกิจแบบแจก ช่วยจริงหรือแค่ชั่วคราว” โดยหัวข้อที่ The Insight จะนำมาวิเคราะห์ คือข้อที่ 5 ที่ว่าด้วย “ความเชื่อมั่นต่อพรรคการเมืองในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ” นั้น มีนัยสำคัญและชี้ให้เห็นภาพรวมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มันไม่ใช่แค่การบอกว่าใครนำใครตาม แต่สะท้อนถึงสภาวะทางความคิดของประชาชนต่อการเมืองและเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

1. ภูมิใจไทย: คะแนนนิยมจาก “อำนาจรัฐ”

ผลสำรวจในหัวข้อที่ว่า “ณ วันนี้ประชาชนคิดว่าพรรคการเมืองใดที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้” ผลออกมาดังนี้

อันดับ 1 พรรคภูมิใจไทย 19.87%

อันดับ 2พรรคประชาชน 17.37%

อันดับ 3 ยังไม่เชื่อพรรคใด 16.63%

อันดับ 4 พรรคเพื่อไทย 13.13%

อันดับ 5 พรรคพลังประชารัฐ 5.15%

อันดับ 6 พรรคไทยก้าวใหม่ 4.24%

การที่ “พรรคภูมิใจไทย” ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 19.87% นั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “แต้มต่อของพรรครัฐบาล” (Incumbency Advantage)

ประชาชนเห็นว่า พรรคนี้เป็นแกนนำรัฐบาล และเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจในปัจจุบันโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ “คนละครึ่งพลัส” หรือมาตรการลดค่าครองชีพอื่นๆ เมื่อนึกถึงปัญหาเศรษฐกิจ ก็ย่อมนึกถึงรัฐบาลที่อยู่ในอำนาจเป็นอันดับแรก

แต่ตัวเลขที่น่าสนใจคือ 19.87% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนักสำหรับพรรคแกนนำรัฐบาล มันสะท้อนว่า แม้ประชาชนจะรับรู้บทบาทของพรรค แต่ก็ยังไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นอย่างท่วมท้น

เมื่อนำไปประกอบกับผลสำรวจในข้อ 1 และ 2 ที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่านโยบายรัฐบาลเป็นแบบ “แจกเงินหรือช่วยเฉพาะหน้า” (29.51%) และช่วยได้แค่ “ระยะสั้น” (80.72%) ก็ยิ่งชัดเจนว่า คะแนนที่ได้มานั้นมาจากสถานะปัจจุบันมากกว่าจะเป็นความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ระยะยาว

2. พรรคประชาชน และกลุ่ม “ยังไม่เชื่อพรรคใด”: คู่แข่งที่น่ากลัว

สิ่งที่น่าจับตามองที่สุดไม่ใช่พรรคอันดับ 1 แต่เป็นอันดับ 2 และ 3

– “พรรคประชาชน” ได้ไป 17.37% ซึ่งหายใจรดต้นคอ “พรรคภูมิใจไทย” ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่ามีประชาชนกลุ่มใหญ่อีกขั้วหนึ่งที่มองหาทางเลือกใหม่ และเชื่อว่าพรรคนี้คือคำตอบในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงการแบ่งขั้วทางความคิดที่ยังคงชัดเจนในสังคม

– “กลุ่มที่ยังไม่เชื่อพรรคใด” มีสูงถึง 16.63% กลุ่มนี้คือ “ตัวแปรตัดสิน” (Swing Voters) ที่แท้จริง และเป็นกลุ่มที่ใหญ่เกือบจะเท่ากับฐานเสียงของสองพรรคแรก

การมีอยู่ของคนกลุ่มนี้สะท้อนถึงความเบื่อหน่าย หรือความไม่มั่นใจต่อทุกพรรคการเมืองที่มีอยู่ พวกเขายังไม่ถูกโน้มน้าวใจ ไม่ว่าจากนโยบายแจกของรัฐบาลปัจจุบัน หรือคำสัญญาของฝ่ายค้าน

เมื่อรวมคะแนนของ “พรรคประชาชน” และ “กลุ่มยังไม่เชื่อพรรคใด” เข้าด้วยกัน จะมีสัดส่วนถึง 34% ซึ่งมากกว่าคะแนนของ “พรรคภูมิใจไทย” อย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสัญญาณเตือนที่ดังที่สุดสำหรับรัฐบาลว่า ประชาชนกลุ่มใหญ่มาก ยังคงกังขาและรอคอยทางเลือกที่ดีกว่า

3. เพื่อไทย: การตกชั้นจาก “ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ”

ในอดีตหากพูดถึงโพลในหัวข้อเศรษฐกิจ “พรรคเพื่อไทย” มักจะครองอันดับหนึ่งเสมอ แต่ในครั้งนี้กลับร่วงไปอยู่อันดับ 4 ด้วยคะแนนเพียง 13.13% นี่คือความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่สำคัญ

มันสะท้อนว่า “แบรนด์” การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เคยแข็งแกร่งของ “พรรคเพื่อไทย” ได้ถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง ฐานเสียงอาจจะถูกแบ่งไปให้ “พรรคประชาชน” หรือย้ายตัวเองไปอยู่ใน “กลุ่มที่ยังไม่เชื่อมั่นพรรคใดเลย”

4. บทสรุปเชิงวิเคราะห์

ผลโพลหัวข้อ “ณ วันนี้ประชาชนคิดว่าพรรคการเมืองใดที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้”  ไม่ได้ชี้ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่กำลังบอกเราว่า

– สนามการเมืองเปิดกว้างอย่างยิ่ง

ไม่มีพรรคใดครองความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจได้อย่างเด็ดขาด ชัยชนะของ “ภูมิใจไทย” ในโพลนี้เป็นเพียงความได้เปรียบในฐานะรัฐบาล แต่ก็เป็นความได้เปรียบที่เปราะบางมาก

– อนาคตอยู่ในมือของคนที่ไม่เลือกใคร

“กลุ่มยังไม่เลือกพรรคใด” คือกุญแจสำคัญ พรรคการเมืองใดที่สามารถนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการระยะยาวของประชาชนได้ (ดังที่สะท้อนในคำถามข้อ 3 และ 4 ที่อยากให้รัฐลงทุนแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างอาชีพระยะยาว) พรรคนั้นก็มีโอกาสที่จะดึงคนกลุ่มนี้มาเป็นฐานเสียงของตัวเองได้

– ความท้าทายของรัฐบาล

“รัฐบาลอนุทิน” ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าพวกเขามีดีกว่านโยบาย “เยียวยาเฉพาะหน้า” เพราะประชาชนกำลังรอคอยการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการจัดการน้ำและการสร้างรายได้ในระยะยาว หากทำไม่ได้ คะแนนนิยมที่เห็นอยู่นี้ก็พร้อมจะเทไปให้คู่แข่งหรือกลุ่มพลังเงียบได้ทุกเมื่อ

โดยสรุป ภูมิทัศน์ทางการเมืองด้านเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะ “สามเส้า” ที่ขับเคี่ยวกันระหว่าง ขั้วรัฐบาล (ภูมิใจไทย), ขั้วทางเลือก (ประชาชน), และ ขั้วพลังเงียบ (ยังไม่เลือกใคร) การต่อสู้จากนี้ไปจะเข้มข้นอย่างยิ่ง และเดิมพันคือความเชื่อมั่นของประชาชน ที่จะส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป

5. ผลสำรวจในหัวข้ออื่นๆ

5.1 ประชาชนคิดว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทินเป็นแบบใด

อันดับ 1 เน้นแจกเงินหรือช่วยเฉพาะหน้า 29.51%

อันดับ 2 ยังไม่เห็นแนวทางที่ชัดเจน 28.26%

อันดับ 3 ทั้งแจกและพัฒนาไปพร้อมกัน 21.86%

อันดับ 4 สร้างงานและเพิ่มรายได้ในระยะยาว 20.37%

5.2 นโยบายแบบ “แจกเงิน–ลดภาระชั่วคราว” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด

อันดับ 1 ช่วยได้ในระยะสั้น 80.72%

อันดับ 2 ช่วยได้มาก 11.64%

อันดับ 3 ไม่ช่วยเลย 7.64%

5.3 ถ้ารัฐบาลมีงบประมาณจำกัด ประชาชนอยากให้ใช้กับเรื่องใดมากที่สุด

อันดับ 1 ลงทุนจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง 53.72%

อันดับ 2 พัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ระยะยาว 51.96%

อันดับ 3 ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม 49.37%

5.4. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างไร จึงจะคุ้มค่าและยั่งยืน

อันดับ 1 จัดท้าแผนบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการระดับประเทศ 67.17%

อันดับ 2 ลงทุนสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมระยะยาว เช่น เขื่อน แก้มลิง บายพาสน้ำ 58.23%

อันดับ 3 ฟื้นฟูอาชีพและเศรษฐกิจในพื้นที่น้ำท่วมหลังน้ำลด 54.05%

อ้างอิง สวนดุสิตโพล : “นโยบายเศรษฐกิจแบบแจก ช่วยจริงหรือแค่ชั่วคราว” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,203 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 7-10 ตุลาคม 2568

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article มทภ.2 ขออภัยคนไทย ดำเนินการกับกัมพูชาไม่ทันใจ ย้ำ ตาควาย-คนา อยู่เขตไทย
Next Article พล.ท.บุญสิน มั่นใจ “แม่ทัพภาคที่ 2”จะทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

POLITICSWORLD

คลั่งชาติ วาทศิลป์ นายทุนและชนชั้นกลาง เคล็ดลับสู่การเป็น “ท่านผู้นำ” ของ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์”

By ระวี ตะวันธรงค์
POLITICSThailand Talk

สภาวะปลอดภัย Safe Zone สร้างอย่างไรให้ปลอดภัยจริงๆ 

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTPOLITICS

“นายกฯ” ร่วมงานไหลเรือไฟ จ.นครพนม

By Srawut
EditorINSIGHTPOLITICS

ยุบสภาทันที กับยุบ 4 เดือน ในสถานการณ์พิเศษ ที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วม ?

By Srawut
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.