ทำความรู้จักกฎ “Overflight Permit” หรือใบอนุญาตบินผ่านน่านฟ้า และกรณีตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้นำประเทศ
ในแวดวงการบินระหว่างประเทศ การอนุญาตให้เครื่องบินของชาติหนึ่งบินผ่านน่านฟ้าของอีกชาติหนึ่ง ถือเป็นทั้งเรื่องทาการบินระหว่างประเทศงเทคนิคและประเด็นทางการทูตที่ละเอียดอ่อน ซึ่งถูกควบคุมโดยกฎที่เรียกว่า “Overflight Permit” หรือใบอนุญาตบินผ่านน่านฟ้า
“Overflight Permit” คืออะไร?
Overflight Permit คือเอกสารอนุญาตอย่างเป็นทางการที่ออกโดยหน่วยงานการบินพลเรือนของประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่ออนุญาตให้เครื่องบินที่ไม่ได้จดทะเบียนในประเทศของตน สามารถบินผ่านน่านฟ้าในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศนั้นได้โดยไม่ต้องลงจอด การขอใบอนุญาตนี้เป็นมาตรฐานสากลที่ทุกสายการบินพาณิชย์และเครื่องบินส่วนบุคคลต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้แน่ใจว่าทุกเที่ยวบินเป็นไปตามกฎระเบียบการจราจรทางอากาศ มีความปลอดภัย และมีการชำระค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ให้แก่ประเทศเจ้าของน่านฟ้า
สำหรับเครื่องบินที่ใช้ในภารกิจของรัฐบาล ทหาร หรือบรรทุกบุคคลสำคัญระดับประมุขของรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาล จะต้องใช้ใบอนุญาตอีกประเภทหนึ่งที่มีความซับซ้อนกว่าเรียกว่า “Diplomatic Clearance” หรือ ใบอนุญาตผ่านทางการทูต ซึ่งการอนุมัติจะไม่ได้พิจารณาแค่ด้านเทคนิคการบิน แต่จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงการต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นหลัก การปฏิเสธหรืออนุมัติจึงเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองและการทูตที่สำคัญ
กรณีศึกษาเด่น: การปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินประธานาธิบดีอีโว โมราเลส บินผ่านน่านฟ้า
เหตุการณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดเกี่ยวกับการใช้กฎนี้ในระดับผู้นำประเทศ เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2013 กับเครื่องบินของประธานาธิบดี อีโว โมราเลส (Evo Morales) แห่งประเทศโบลิเวีย
ลำดับเหตุการณ์:
- ต้นทาง: ประธานาธิบดีโมราเลสกำลังเดินทางกลับประเทศโบลิเวีย หลังจากเข้าร่วมการประชุมด้านพลังงานที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
- ชนวนเหตุ: เกิดข่าวลือหนาหูว่า เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden) ผู้เปิดโปงข้อมูลลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (NSA) ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้โดยสารไปกับเครื่องบินของประธานาธิบดีโมราเลสด้วย
- การปฏิเสธน่านฟ้า: ในระหว่างการเดินทาง หลายประเทศในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส, สเปน, อิตาลี และโปรตุเกส ได้ปฏิเสธที่จะให้เครื่องบินของประธานาธิบดีโมราเลสบินผ่านน่านฟ้าของตนอย่างกะทันหัน โดยอ้างเหตุผลทางเทคนิค
- ผลลัพธ์: การถูกปฏิเสธน่านฟ้าทำให้เครื่องบินของผู้นำโบลิเวียต้องเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดฉุกเฉินที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นเวลานานกว่า 14 ชั่วโมง ทางการออสเตรียได้เข้าตรวจสอบเครื่องบินและยืนยันว่าไม่มีเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนอยู่บนเครื่อง ก่อนที่ประเทศต่างๆ จะยอมเปิดน่านฟ้าให้เดินทางต่อไปได้ในที่สุด
ความสำคัญของเหตุการณ์:
เหตุการณ์นี้ได้จุดชนวนวิกฤตการณ์ทางการทูตครั้งใหญ่ บรรดาผู้นำในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกามองว่าการกระทำของชาติยุโรปเป็นการละเมิดอธิปไตยและดูหมิ่นผู้นำของโบลิเวียอย่างร้ายแรง โดยเชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการใช้กฎการบิน (ในที่นี้คือ Diplomatic Clearance) เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อเป้าหมายระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการควบคุมน่านฟ้าสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้นำประเทศและกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งระดับโลกได้
แม้ว่าจะไม่มีกรณีใดที่โด่งดังเท่ากับกรณีของประธานาธิบดีโมราเลส แต่ในทางปฏิบัติ การปฏิเสธหรือถ่วงเวลาการให้ใบอนุญาตบินผ่านน่านฟ้ายังคงถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแสดงออกถึงความไม่พอใจทางการทูตอยู่เป็นระยะๆ เช่น การที่ประเทศคู่ขัดแย้งปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินทหารหรือเครื่องบินขนส่งของอีกฝ่ายบินผ่านน่านฟ้าของตนเองเพื่อไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ขัดแย้ง เป็นต้น

