The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / เทคโนโลยี LiDAR คืออะไร และจะแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ได้อย่างไร ?
EditorINSIGHTPolitic

เทคโนโลยี LiDAR คืออะไร และจะแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ได้อย่างไร ?

Srawut
Last updated: 6 ต.ค. 2025 15:45
Srawut
Share
SHARE

ความสำคัญของเทคโนโลยี LiDAR ต่อการแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา และเหตุผลที่ไทยยังต้องยึด “MOU 43–44” ไว้อย่างมั่นคง

กว่า 20 ปีที่ความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชาต้องเผชิญความซับซ้อนจาก “เส้นเขตแดนบนแผนที่อาณานิคม” เทคโนโลยี LiDAR กำลังกลายเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยคลี่คลายข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมายาวนาน โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง “แผนที่ 1:200,000 ของฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของข้อขัดแย้งหลายกรณี รวมถึงพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร

1. LiDAR: เทคโนโลยีที่แม่นยำกว่าภาพถ่ายดาวเทียม

LiDAR (Light Detection and Ranging) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงเลเซอร์ยิงลงสู่พื้นผิวโลกเพื่อวัดระยะทางและระดับความสูงอย่างละเอียดระดับเซนติเมตร ข้อมูลที่ได้สามารถสร้างเป็น “แบบจำลองภูมิประเทศสามมิติ (3D Terrain Model)” ซึ่งแม่นยำกว่าภาพถ่ายดาวเทียมหลายเท่า

ในเวทีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (Joint Boundary Commission: JBC) ช่วงปี 2553–2556 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการที่จะนำ LiDAR มาใช้ เพื่อจัดทำ “แผนที่ภูมิประเทศร่วม” (Joint Topographic Map) โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

  • สร้างฐานข้อมูลภูมิประเทศที่เป็นกลางและตรวจสอบได้
  •  ใช้ประกอบการระบุเส้นเขตแดนในพื้นที่ที่ยัง “ไม่ปักปัน” (un-demarcated areas)
  • ลดความขัดแย้งจากการตีความแผนที่สมัยอาณานิคม

แม้ในเวลานั้น LiDAR ยังไม่ถูกนำมาใช้จริง เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณและการเมือง แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ ฝ่ายไทยโดยกรมแผนที่ทหาร ได้เตรียมความพร้อมทั้งในด้านเทคนิคและบุคลากร เพื่อรองรับการสำรวจร่วมในอนาคต

2. การประชุม JBC รอบล่าสุด: ก้าวสำคัญสู่การใช้ “เทคโนโลยีร่วมสมัย”

การประชุม JBC ที่กรุงพนมเปญเมื่อเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทั้งสองฝ่ายกลับมาเห็นพ้องถึงการใช้เทคโนโลยี LiDAR และระบบภูมิสารสนเทศสมัยใหม่ (GIS, GPS) เพื่อสำรวจและจัดทำข้อมูลภูมิประเทศร่วมกันอีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า ไทย–กัมพูชา กำลังพยายามกลับเข้าสู่ “กลไกทางเทคนิค” มากกว่า “กลไกทางการเมือง” ซึ่งจะช่วยให้การเจรจามีฐานอยู่บนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ การใช้ LiDAR ยังเปิดโอกาสให้เกิด “Common Geospatial Database” หรือฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศร่วม ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่เศรษฐกิจชายแดน และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ในอนาคต

3. ทำไมไทยต้อง “ยึด MOU 43 และ MOU 44” ไว้อย่างมั่นคง

MOU 2543 (ว่าด้วยหลักการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก) และ MOU 2544 (ว่าด้วยหลักการสำรวจเขตแดนทางทะเล) เป็น “กรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศ” ที่ทำให้ไทยยังสามารถ

  • รักษาสถานะความชอบธรรมในการเจรจาในทุกพื้นที่ชายแดน
  • ดำเนินการสำรวจร่วมได้โดยไม่กระทบอธิปไตย
  • ใช้กลไก JBC เป็นช่องทางหลักในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง

หากไทยยกเลิกหรือไม่ยึดตาม MOU ทั้งสองฉบับ จะทำให้ขาด “เครื่องมือทางกฎหมาย” ที่ใช้ยืนยันความชอบธรรมของการดำเนินการร่วม และเปิดช่องให้กัมพูชานำข้อพิพาทเข้าสู่เวทีระหว่างประเทศ ซึ่งไทยจะเสียเปรียบทางหลักฐานและทางเทคนิคในทันที

ในทางกลับกัน การคงกรอบ MOU 43–44 เอาไว้ ทำให้ไทยสามารถ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี LiDAR เพื่อยืนยัน “ความถูกต้องของภูมิประเทศจริง” โดยไม่ต้องผูกพันกับแผนที่อาณานิคมที่กัมพูชาอ้างอิงอยู่ นั่นหมายความว่าไทยยังคง “ได้เปรียบเชิงเทคนิคและเชิงกฎหมาย” ในการต่อรอง

4. สรุปเชิงยุทธศาสตร์

– LiDAR คือเครื่องมือสำคัญที่จะเปลี่ยน “ข้อพิพาททางแผนที่” ให้กลายเป็น “ข้อเท็จจริงทางภูมิประเทศ

– การยึด MOU 43–44 คือการคง “กรอบอำนาจการเจรจา” ที่ทำให้ไทยสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นฐานข้อมูลร่วมอย่างถูกต้อง

– หากดำเนินการต่อเนื่องภายใต้กลไก JBC ไทยจะได้ประโยชน์ทั้งทางเทคนิค ทางกฎหมาย และทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

5. บทส่งท้าย

เทคโนโลยี LiDAR ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางแผนที่ แต่คือ “สะพานแห่งความเข้าใจ” ระหว่างสองประเทศ หากไทยสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการใช้จริงภายใต้กรอบ MOU ที่มีอยู่ ก็จะเป็นก้าวสำคัญในการ “ปักเขตแดนด้วยข้อมูล ไม่ใช่ด้วยความขัดแย้ง”

และนั่นคือวิธีที่ไทยจะรักษาผลประโยชน์ของชาติได้อย่างชาญฉลาด ด้วยข้อมูลที่แม่นยำ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และกติกาที่เป็นธรรม

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article พิธีส่งกำลังพล ปฏิบัติภารกิจชายแดนใต้
Next Article คืบหน้าเหตุปล้นร้านทองกลางห้างดัง สุไหงโก-ลก
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

EditorINSIGHTPOLITICS

พรรคประชาชน ได้หรือเสีย ? หลังหนุนอนุทินเป็นนายกฯ

By Srawut
Editor

การเติบโตและความเจ็บปวดในวงการเพลงของ “แพทริค อนันดา”

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTPOLITICSSOCIAL

เทียบเสียงโซเชียลกับผลโพล = “ยุบสภา”

By Srawut
Editor

‘เด็กไม่ได้ยั่ว แต่จิตใจผู้ใหญ่ต่างหากที่ผิดปกติ’ เปโดไม่มีวันถูกต้อง ไม่มีวันถูกกฎหมายและไม่มีวันถูกนับเป็นเพศวิถี

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.