วิเคราะห์ผลโพลเรื่อง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ผ่านผลโพล สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อ “รัฐบาลอนุทิน”
การจัดตั้ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” สูตรการเมืองที่ไม่คุ้นเคยนี้กลายเป็นทางออกเฉพาะหน้า ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม
“นิด้าโพล” จึงได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เพื่อวัดชีพจรของสังคมต่อการเดิมพันครั้งนี้ ผลที่ได้ไม่ใช่คำตัดสินว่า “เอา” หรือ “ไม่เอา” แต่คือเสียงสะท้อนของความกังวล การจับตามอง และการให้โอกาสอย่างมีเงื่อนไข

1. เสถียรภาพที่ถูกตั้งคำถาม
หัวใจของผลสำรวจคือความกังวลต่อความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้ ประชาชนกว่าหนึ่งในสาม (35.88%) มองตรงกันว่ารัฐบาลจะ “ไม่มีเสถียรภาพ” และต้องทำงานอย่างยากลำบาก เหตุผลหลักคือการที่รัฐบาลต้องคอยเจรจาต่อรองกับ “พรรคประชาชน” ที่สนับสนุนให้ “อนุทิน” เป็นนายกฯ แต่ไม่ร่วมรัฐบาล ภาพที่ประชาชนเห็นคือรัฐบาลที่เปราะบางและอาจเกิดความขัดแย้งขึ้นได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความกังวล ก็มีเสียงของความเข้าใจสถานการณ์เช่นกัน โดย 30.31% ของผู้ตอบแบบสำรวจมองว่านี่คือ “ทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้” สะท้อนภาวะจำยอมทางการเมือง แม้จะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดก็ตาม

2. นาฬิกานับถอยหลัง: ข้อตกลง 4 เดือน
เงื่อนไขสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาลคือ “ข้อตกลง 4 เดือน” ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ “พรรคประชาชน” ให้การสนับสนุนรัฐบาล และประชาชนก็ยึดถือหมุดหมายนี้เป็นสำคัญ
ผลสำรวจชี้ว่าเสียงส่วนใหญ่เกินครึ่ง หรือ 56.26% เชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ครบ 4 เดือนตามข้อตกลง แล้วยุบสภา ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าประชาชนมองรัฐบาลชุดนี้เป็น “รัฐบาลเฉพาะกาล” ที่มีอายุขัยจำกัด

3. บทบาท “ผู้คุมเกม” ของพรรคประชาชน
การตัดสินใจของ “พรรคประชาชน” คือตัวแปรสำคัญที่สุดที่ทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยเกิดขึ้นได้ ผลสำรวจได้เจาะลึกมุมมองของประชาชนต่อการตัดสินใจของพรรคใน 2 ประเด็นหลัก
- การหนุน “อนุทิน” เป็นนายกฯ
ในประเด็นนี้ ความเห็นของประชาชน “เสียงแตก” อย่างชัดเจน โดยกลุ่มที่ “เห็นด้วย” (53.51%) มีมากกว่ากลุ่มที่ “ไม่เห็นด้วย” (46.03%) เพียงเล็กน้อย ความก้ำกึ่งนี้สะท้อนว่าประชาชนเข้าใจความจำเป็นที่ต้องหาทางออกจากวิกฤต แต่ก็ยังมีความรู้สึกไม่สบายใจกับการสนับสนุนบุคคลต่างขั้วการเมือง
- การไม่เข้าร่วมรัฐบาล
ตรงกันข้ามกับการตัดสินใจแรก การที่พรรคประชาชนเลือกที่จะ “ไม่เข้าร่วมรัฐบาล” กลับได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้นถึง 56.33%
นี่คือจุดที่น่าสนใจที่สุด ประชาชนต้องการให้พรรคประชาชนยืนอยู่นอกวงรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าตามข้อตกลง การตัดสินใจนี้ช่วยรักษาภาพลักษณ์ “การเมืองใหม่” ของพรรค และทำให้พวกเขากลายเป็น “ผู้คุมเกม” ที่มีอำนาจต่อรองสูง โดยไม่ต้องแปดเปื้อนกับการบริหารโดยตรง

4. สรุปความคิดเห็นของประชาชน ต่อ “รัฐบาลอนุทิน”
ผลสำรวจของนิด้าโพลฉบับนี้คือภาพสะท้อนของรัฐบาลที่ประชาชนไม่ได้มอบความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยม แต่เป็นการให้ “โอกาส” ที่มีเงื่อนไขและกรอบเวลาชัดเจน รัฐบาลของนายอนุทินจึงเปรียบเสมือนรัฐบาลที่อยู่ในช่วง “โปรโมชั่น 4 เดือน” ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองภายใต้สายตาที่จับจ้องของสังคม

