The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / BUSINESS / ‘Micromanagement’ บริหารงานจู้จี้มากไปจนลูกน้องใจไม่ดี
BUSINESSCASE STUDY

‘Micromanagement’ บริหารงานจู้จี้มากไปจนลูกน้องใจไม่ดี

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 18 ส.ค. 2023 14:42
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

“อย่าทำแบบนั้น ทำแบบพี่ดีกว่า”
“งานง่ายๆ ทำไมใช้เวลานานจัง”
“งานไปถึงไหนแล้ว ใกล้เสร็จหรือยัง”

ชาวออฟฟิศทั้งหลายคงไม่มีใครชอบความจู้จี้จุกจิกในที่ทำงาน โดยเฉพาะการมีหัวหน้าที่คอยเช็คความเคลื่อนไหวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ตลอดเวลา หากมองเผินๆ อาจเป็นเหมือนความใส่ใจลูกทีมแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทว่าความใส่ใจที่มีมากจนเกินไปอาจเป็นการก้าวก่ายในหน้าที่ จนถึงขั้นปิดกั้นโอกาสในการเติบโตในการทำงานของลูกทีมก็ว่าได้

การบริหารงานยิบย่อยเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วนี้มีชื่อเรียกว่า ‘Micromanagement’ โดยมักเกิดขึ้นกับหัวหน้าเจ้าระเบียบที่มีความคิดว่างานทุกอย่างต้องออกมาเนี้ยบที่สุด จึงเกิดการบังคับบัญชาลูกทีมให้ทำตามคำสั่งและควบคุมการทำงานไม่ต่างจากหุ่นเชิด สร้างความอึดอัดใจให้กับลูกทีมและอาจนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่เป็นพิษ (Toxic Workplace) 

BetterUp อธิบายว่า การบริหารแบบ Micromanagement ส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่หัวหน้ากลัวความผิดพลาดและขาดความเชื่อใจในตัวลูกทีมจนไม่สามารถให้อิสระกับลูกทีมได้เป็นเจ้าของผลงาน ทำให้เกิดการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการทำงานทุกขั้นตอนและยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง จนกลายเป็นหัวหน้าจอมจู้จี้จุกจิกกับทุกรายละเอียดของงาน อีกทั้งหัวหน้าประเภทนี้ยังก่อให้เกิดอุปสรรคในการสร้างทีมเวิร์คและทำให้ลูกทีมรู้สึกด้อยค่าในฐานะสมาชิกของทีมอีกด้วย

Harvard Business Review ระบุว่าการจู้จี้จุกจิกของหัวหน้าเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในสังคมการทำงาน แม้จะไม่ใช่การชี้นิ้วสั่งแล้วตะคอกใส่หน้าแรงๆ เหมือนในละครที่เราเห็นกัน แต่การบ่นในเรื่องที่ไม่จำเป็น หรือการบังคับให้ทำงานในวิธีการเหมือนตัวเองนั้น ก็เป็นการบริหารแบบ Micromanagement ที่กลืนกินความเป็นอิสระและบั่นทอนจิตใจลูกทีม

จากการศึกษาของ Accountemps พบว่ามีผู้คนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้าที่จู้จี้จุกจิก (59%) รู้สึกบั่นทอนจิตใจในการทำงาน (68%) และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง (55%) จากการศึกษาอื่นยังพบว่า หัวหน้าจู้จี้จุกจิกยังเป็นสาเหตุทำให้พนักงานลาออก (36%)

นอกจากนั้น ในทางทฤษฎียังมีการระบุว่า พื้นฐานของมนุษย์มีอิสระทางความคิดในตัวเองโดยกำเนิด ทำให้คนเรารู้สึกชอบบางสิ่งบางอย่าง มีการตัดสินใจและแสดงความปรารถนาในแบบของตัวเอง ซึ่งเมื่อถูกควบคุมทางความคิดก็ไม่ต่างอะไรจากการที่ฝืนธรรมชาติของมนุษย์ ผู้ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหัวหน้าที่บริหารงานแบบ Micromanagement จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดความวิตกกังวลและความเครียดจนไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน

จูเลีย ดิกังจิ (Julia DiGangi) ผู้ก่อตั้ง NeuroHealth Partners ชี้ว่าการจู้จี้จุกจิกของหัวหน้าย่อมบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของคนในทีม ซึ่งเปรียบเหมือนกับชักเย่อ โดยฝั่งหัวหน้าอาจมองว่าการบริหารดังกล่าวเป็นการเข้าใจการทำงานอย่างละเอียด ลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น ในขณะที่ลูกทีมกลับรู้สึกไม่เป็นอิสระในการทำงานและขาดความมั่นใจในตัวเอง การยื้อกันไปยื้อกันมาของสงครามชักเย่อยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายยิ่งแย่ลง มิหนำซ้ำยังสร้างบาดแผลในการทำงานต่อกัน

จูเลีย ดิกังจิ กล่าวต่อว่า “การยุติวงจรความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์เหล่านี้ที่รวดเร็วที่สุดคือ การปล่อยเชือก การปล่อยเชือกนี้ไม่ใช่การแสดงถึงความพ่ายแพ้แต่เป็นการแสดงความเป็นผู้นำที่แท้จริง หากคุณเป็นหัวหน้าทีมหรือโค้ช การปล่อยเชือกและถอยออกมาอยู่นอกสนามเพื่อซัพพอร์ตลูกทีมคือบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำ”

จะเห็นได้ว่าการบริหารงานแบบ Micromanagement ทำให้หัวหน้าและลูกทีมต่างเสียเวลาอันมีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์ แทนที่จะได้ใช้เวลาในการจดจ่อกับงานของตัวเอง กลับใช้เวลาไปกับการจู้จี้จุกจิกในรายละเอียดงานเล็กๆ จนทำให้ความตึงเครียดและนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ เช่น ลูกทีมขาดความคิดสร้างสรรค์ ไม่กล้าตัดสินใจในงานของตัวเอง กลัวความผิดพลาด สุขภาพจิตใจย่ำแย่ ยิ่งกว่านั้นหัวหน้าที่บริหารงานแบบ Micromanagement ยังมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน ฉะนั้นหากยังมีการบริหารงานเช่นนี้ต่อไปก็อาจส่งผลให้หัวหน้าและลูกทีมเกิดภาวะหมดไฟในการทำงานลงในที่สุด

อย่างไรก็ตาม Micromanagement อาจไม่ได้มีแค่ข้อเสียเสมอไปและยังมีความจำเป็นกับงานที่มีความเร่งด่วน หัวหน้าก็สามารถตัดสินใจในทันที แต่ในสภาวะการทำงานปกติ หัวหน้าก็ควรให้อิสระลูกทีมได้ทำงานในวิธีการของตัวเอง เปิดโอกาสให้ได้ลองผิดลองถูก เพราะอีกหนึ่งบทบาทของผู้นำที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การพัฒนาศักยภาพลูกทีมให้เติบโตในสายอาชีพ 

แม้ในวันที่ลูกทีมเผชิญความผิดพลาด หัวหน้าก็ควรที่จะยอมรับและเข้าใจว่าความผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนเพราะไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์ทุกอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งกว่านั้น ชีวิตจริงคนเราก็อาจจะต้องเผชิญกับความล้มเหลวอยู่หลายครั้งหลายหนกว่าจะสำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความล้มเหลวจะเป็นหนึ่งในบทเรียนของความสำเร็จ ซึ่งคนที่ไม่เคยล้มเหลวต่างหากที่อาจจะพยายามไม่มากพอ เหมือนกับวลีที่ Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ได้กล่าวเอาไว้ว่า “If you don’t fail sometimes, you are not being ambitious enough.”

ที่มา: hbr 2 / betterup / acuitytraining

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:MicromanagementThe ModernistToxic WorkplaceWorkทำงานที่ทำงาน
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article ชำแหละ ‘แผนปฏิรูปประเทศ’ มรดก คสช. ที่อ้างว่าสำเร็จลุล่วง แต่ทำไมไทยยังเต็มไปด้วยปัญหา
Next Article ‘เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ’ หนังไทยรสจัด ฆ่ากันสะบัดด้วยมายาคติ
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

POLITICS

เช็คสูตรจัดตั้งรัฐบาลบนทาง 3 แพร่ง บนโลกประชาธิปไตย หรือการเมืองไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ 

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

Retrospect : การฟื้นคืนชีพอีกครั้งกับความหวังใหม่ชื่อ “เก้า จิรายุ”

By ระวี ตะวันธรงค์
CASE STUDYPOLITICS

ปรากฏการณ์ #ธุรกิจสว แบนธุรกิจเท่ากับล่าแม่มดจริงหรือ?

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

“Agency” : เมื่อเบี้ยอยากออกจากกระดาน และไม่ต้องการเป็นทาสอีกต่อไป

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.