The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / คืบหน้าเหตุปล้นร้านทองกลางห้างดัง สุไหงโก-ลก
EditorINSIGHTPOLITICS

คืบหน้าเหตุปล้นร้านทองกลางห้างดัง สุไหงโก-ลก

Srawut
Last updated: 6 ต.ค. 2025 16:29
Srawut
Share
SHARE

โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจงความคืบหน้าเหตุคนร้ายก่อเหตุปล้นร้านทองกลางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

วันนี้ (6 ตุลาคม 2568) เวลา 13.00 น. ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจงเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด บุกปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 ตุลาคม 2568

โดย พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า “จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 18.29 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ สิบเอก บุริศวร์ ระดาชัย สังกัดหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ถูกยิงได้รับบาดเจ็บขณะพยายามนำอาวุธประจำกายจากรถยนต์ของตนเองเข้าขัดขวาง

เบื้องต้นได้นำส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลสุไหง-โกลก ปัจจุบันอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลโท นรธิป  โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี”

จากการตรวจสอบมีเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกหลายเหตุการณ์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

– เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ อส. รายงานพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม วางไว้บริเวณจุดกลับรถหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุไหงโก-ลก

– เวลา 18.33 น. พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสวมหมวกคลุมศีรษะ ซึ่งคาดว่าเป็นผู้วางวัตถุดังกล่าวและยิงปืนขึ้นฟ้า สร้างสถานการณ์หวาดกลัว

– เวลา 18.36 น. เกิดเหตุปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพภายในห้างบิ๊กซี ผู้ก่อเหตุชิงทองคำไปได้จำนวนหนึ่ง

– เวลา 18.47 น. สิบเอก บุริศวร์ ถูกยิงจากอาวุธปืนพกและอาวุธปืนขนาด 5.56 มม. ขณะพยายามนำอาวุธประจำกายจากรถยนต์ของตนเองเข้าขัดขวาง

– เวลา 18.55 น. รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณทางรถไฟโต๊ะลือเบ เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก

– เวลา 19.45 น. เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งในพื้นที่ชุมชนเคหะ เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก

เจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณจุดกลับรถหน้าห้างบิ๊กซี รวมทั้ง ตะปูเรือใบ วางตามถนนหลายจุด ซึ่งคาดว่าถูกใช้เพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นได้ปิดกั้นพื้นที่และประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน

สำหรับยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ คาดว่าทำการปล้นรถยนต์จากพื้นที่ ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส และขับมาก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอสุไหงโก- ลก โดยเมื่อเวลา 19.20 น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเกิดเหตุปล้นรถยนต์ในพื้นที่ จำนวน 2 คัน คือ

– คันที่ 1 เป็นรถยนต์ดีแม็ก สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 6521 นราธิวาส เกิดเหตุบ้านเลขที่ 277 หมู่ที่ 4 ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.00 น.

– คันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.20 น.

ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ ตรวจพบรถต้องสงสัยดังกล่าว จำนวน 2 คัน จอดทิ้งไว้บริเวณบ้านตอออ หมู่ที่ 1 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งประสานชุด EOD เก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดเก็บพยานหลักฐานเข้าดำเนินการตามกระบวนการต่อไป

ภายหลังทราบเหตุ พลโท นรธิป  โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ หน่วยกำลังทุกหน่วยเข้ากดดันเต็มพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ป่าเขา และในเขตเมือง ปฏิบัติตามแผนป้องกันเมืองเศรษฐกิจ ในระดับเตรียมพร้อม 100 %

และเน้นย้ำหน่วยป้องกันชายแดน เพิ่มความเข้มการปฏิบัติตามแนวชายแดน ไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการหลบหนี เพ่งเล็งยานพาหนะที่ก่อเหตุ บุคคลต้องสงสัย รวมถึงเส้นทางที่อาจใช้ในการหลบหนี ตลอดจนประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามคนร้าย และรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการติดตามทางกล้องวงจรปิด เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อไป

เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนเจตนาที่ชัดเจนของผู้ก่อเหตุในการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังประโยชน์ทางการเงิน เพื่อมาหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการของตน โดยมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

ซึ่งจากการตรวจสอบและวิเคราะห์พฤติกรรมย้อนหลัง พบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้การปล้น ลักทรัพย์ และจี้ชิงทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้ออาวุธ วัสดุประกอบระเบิด ยานพาหนะเพื่อทำระเบิด และใช้ในการก่อเหตุร้าย

โดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น ปล้นตู้ ATM หลายจุดในวันเดียว เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 , ปล้นห้างทองสุธาดา มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ในพื้นที่ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 และลักษณะการก่อเหตุต่อที่ว่าการอำเภอตากใบ ซึ่งรูปแบบการก่อเหตุเป็นลักษณะเดียวกัน

คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่ม BRN สิ่งบอกเหตุแสดงว่ากลุ่มขบวนการขาดเงินทุนในการก่อเหตุ เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเส้นทางการเงินซึ่งเป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการ อาทิ ภัยแทรกซ้อนที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด สินค้าที่ผิดกฎหมาย และ น้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการ จึงเป็นสิ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าว มิได้กระทำตามอุดมการณ์ที่อ้างต่อพี่น้องประชาชน เป็นเพียงกลุ่มโจรซึ่งกระทำทุกอย่างเพียงประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอประณามการกระทำเยี่ยงโจรดังกล่าว ซึ่งส่งผลต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงการไม่คำนึงปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัยหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร.1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article เทคโนโลยี LiDAR คืออะไร และจะแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ได้อย่างไร ?
Next Article กอ.รมน. ปรับยุทธศาสตร์รับมือภัยคุกคามใหม่
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

ปี 2024 จะมีเทรนด์อะไรน่าจับตา? ร่วมอัปเดตเทรนด์กันที่งาน CREATIVE TALK CONFERENCE หนึ่งในงาน CTC2023 FESTIVAL

By ระวี ตะวันธรงค์
POLITICS

ตั้ง “พลเรือน” คุม “กลาโหม” เสถียรภาพบนฐานที่ไม่มั่นคง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

ตรวจพบสัญญาณวิทยุจากดาวนอกระบบสุริยะ ลุ้นว่าดาวดวงนั้นอาจมีชั้นบรรยากาศและสิ่งมีชีวิต

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

PRAY อัลบั้มใหม่ของ The Yers และบทบาทของอู๋-ยศทร โปรดิวเซอร์เต็มตัวผู้ไม่คิดทรยศตัวตน

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.