The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / Editor / อัปเดต 7 ประเทศฮีลใจคน Gen Z ในปี 2023
Editor

อัปเดต 7 ประเทศฮีลใจคน Gen Z ในปี 2023

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 5 ก.ค. 2023 17:17
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งการระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 ที่ทำให้ตลาดแรงงานทั่วโลกหยุดชะงัก เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยต้องปิดกิจการ พนักงานหลายล้านคนถูกพักงานและตกงาน นอกจากนั้นยังมีวิกฤตการณ์ด้านอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ล้วนมีบทบาทและสร้างผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของบริษัททั่วโลกที่ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว 

ผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 26 ฉบับเอเชียแปซิฟิกของ PwC พบว่า ซีอีโอในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเชื่อว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลง (69%) และเชื่อว่าโมเดลธุรกิจปัจจุบันของพวกเขาอาจจะไปไม่รอดในทศวรรษหน้า (53%) โดยมองว่าความท้าทายสำคัญมีสองประเด็น คือ การสร้างสมดุลระหว่างความสามารถในการทำกำไรในระยะสั้น และการเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อการเติบโตในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวไม่เพียงเกิดขึ้นในระดับองค์กรเท่านั้น ทว่ายังได้ส่งผลกระทบในระดับบุคคลด้วย โดยเฉพาะ Gen Z (อายุ 18-24 ปี) กลุ่มคนที่จะก้าวมามีบทบาทสำคัญในตลาดแรงงาน แม้ว่าคน Gen Z จะถูกเรียกว่าเป็นเจเนอเรชั่นมนุษย์กลายพันธุ์ที่พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงวิกฤต COVID-19 ก็เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง ทั้งในการเรียนออนไลน์และการว่างงาน ทำให้กลุ่มคน Gen Z เกิดความทุกข์ด้านสุขภาพจิตมากขึ้น จากผลการวิจัยล่าสุดจาก AXA หัวข้อเรื่อง Mind Health and Wellbeing ปี 2023 ได้เปิดเผยว่า มากกว่าครึ่งของคน Gen Z ทั่วโลก (53%) และในเอเชีย (51%) มีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ นอกจากนั้นการศึกษายังพบว่า พนักงานกลุ่ม Gen Z ในเอเชียกำลังต่อสู้กับความเครียดต่างๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีในการทำงาน รวมถึงความไม่แน่นอนในอนาคตทำให้เกิดความกังวลใจ (69%) 

จะเห็นได้ว่า จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งในหลายประเทศได้มีการปรับเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านบุคลากร โดยมีการร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้แนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเป็นอย่างไร The Modernist มาอัปเดต 7 ประเทศฮีลใจคน Gen Z กับการทำงานแบบใหม่ในปี 2023 ให้ได้ชมไปพร้อมกัน 

สหรัฐอเมริกา

Mark Takano หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากแคลิฟอร์เนียได้นำเสนอกฎหมายการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (4 วันต่อสัปดาห์) เขาอธิบายว่า “กฎหมายฉบับนี้จะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตพนักงาน เมื่อทุกคนมีชั่วโมงการทำงานสั้นลง จะส่งผลให้มีชั่วโมงการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น”

หนึ่งในผู้เสนอกฎหมายนี้ ชี้ให้เห็นว่าการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (5 วันต่อสัปดาห์) ของสหรัฐฯ ที่มีมาตั้งแต่ปี 1940 จนถึงปัจจุบัน แม้จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย แต่การทำงานไม่ได้สร้างความสมดุลให้กับพนักงานได้อย่างแท้จริง

“นานเกินไปแล้วที่ประเทศเราให้ความสำคัญกับผลกำไรขององค์กรมากกว่าคนทำงาน และชาวอเมริกันถูกบังคับให้ทำงานหลายชั่วโมง แม้ว่าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้มีนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในหลายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ความเป็นอยู่ที่ดีและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ขั้นพื้นฐานนั้นย่อมมีความสำคัญมากกว่า ฉะนั้นการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์จะช่วยสร้างสุขภาวะที่ดีและยั่งยืนให้กับพนักงาน” หนึ่งในผู้เสนอกฎหมายกล่าว

ก่อนหน้านี้ สภานิติบัญญัติแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียได้เสนอกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มากกว่า 14 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2005 แต่ถูกการคัดค้านมาโดยตลอด สืบเนื่องมาจากวัฒนธรรมการทำงานแบบเดิมของสหรัฐฯ ที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนัก ความสามารถ ความสำเร็จ และมาตรฐานการทำงาน 40 ชั่วโมง ที่ใช้กันมานานกว่า 80 ปี

ในปีนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากแคลิฟอร์เนีย ได้นำเสนอกฎหมายอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนจากข้อบังคับให้บริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมด มีข้อกำหนดการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็นการเสนอโครงการนำร่องมอบเงินช่วยเหลือบริษัทที่ต้องการทดลองทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยบริษัทที่เข้าร่วมจะเป็นหนึ่งในผู้ประเมินผลการทดลองให้กับภาครัฐต่อไป

ฝรั่งเศส

AXA สำรวจความคิดเห็นคนทำงาน 30,000 คนทั่วยุโรป พบว่า พนักงานในฝรั่งเศสประสบความสำเร็จและมีความสุขมากที่สุดในยุโรป โดยมี 33% ของพนักงานรู้สึกถูกเติมเต็มในการทำงาน ซึ่งอยู่ในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ (29%) เบลเยียมและสเปน (24%) เยอรมันและสหราชอาณาจักร (23%)

จากผลสำรวจดังกล่าว ยังพบว่าฝรั่งเศสมีชั่วโมงทำงานน้อยที่สุดในยุโรปและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การทำงานในฝรั่งเศสได้รับการจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมี 26% ของพนักงานชาวฝรั่งเศสมองว่า การทำงานของพวกเขาอยู่ในระดับที่พึงพอใจที่สุด อีกทั้งยังส่งผลให้ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการรายงานภาวะซึมเศร้าและความเครียดต่ำที่สุดอีกด้วย

ออสเตรเลีย

รัฐบาลออสเตรเลียให้การสนับสนุนเงินชดเชยแก่พนักงานพ่อแม่มือใหม่ในการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร โดยได้รับค่าจ้าง ภายใต้โครงการ Parental Leave Pay จากหน่วยงานภาครัฐที่ชื่อว่า Services Australia 

Parental Leave Pay เป็นโครงการสนับสนุนเงินชดเชยให้กับกลุ่มพนักงานที่ต้องเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดหรือเด็กที่รับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม โดยพนักงานพ่อแม่มือใหม่สามารถเข้าร่วมโครงการ Parental Leave Pay กับทางรัฐบาลออสเตรเลีย ทั้งนี้หากนายจ้างมีนโยบายสนับสนุนเงินชดเชยให้กับพนักงาน พนักงานก็สามารถใช้สิทธิกับทางบริษัทและสวัสดิการของภาครัฐได้ทั้งคู่

ล่าสุดรัฐบาลออสเตรเลียมีการเพิ่มวันลาในโครงการ Parental Leave Pay ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 พนักงานสามารถขอลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรสูงสุด 20 สัปดาห์ (จากเดิม 18 สัปดาห์) โดยจ่ายค่าจ้างในอัตราค่าแรงขั้นต่ำของประเทศ รวมถึงพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวก็สามารถเข้าถึงสวัสดิการนี้ได้เช่นกัน

Amanda Rishworth รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคม กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงแผนการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรนี้ เป็นการตอบโจทย์ครอบครัวสมัยใหม่มากขึ้น โดยภาครัฐได้ตระหนักถึงความเป็นอยู่ของพนักงานที่เป็นพ่อแม่ สำหรับสาเหตุที่ค่าชดเชยในออสเตรเลียไม่สูงเทียบเท่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากโครงการ Parental Leave Pay เป็นระบบที่ไม่ได้รับรายได้มาจากภาษีของประชาชน จึงทำให้มีความแตกต่างกับประเทศที่มีการให้เงินชดเชยผ่านประกันสังคมที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่มีการจ่ายประกันสังคมเท่านั้น”

ฮ่องกง

สามปีที่ผ่านมาในยุค COVID-19 ทำให้เศรษฐกิจในฮ่องกงและตลาดแรงงานเปลี่ยนไป Randstad เผยการรายงาน Employer Brand Research ฉบับที่ 11 ในฮ่องกง พบว่า 42% ของพนักงาน ลาออกเพราะขาดสมดุลในชีวิตการทำงาน 31% ของพนักงานคาดหวังที่จะได้ทำงานในบริษัทที่ส่งเสริมสมดุลในชีวิต ตามมาด้วย 28% ของพนักงาน ลาออกเพื่อปรับเงินเดือน

จากรายงานข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าพนักงานส่วนใหญ่ในฮ่องกงมองหาโอกาสในการทำงานที่ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการเวลาทำงานได้อย่างสมดุลและมีความยืดหยุ่น อีกทั้งชาวฮ่องกงยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในสายอาชีพ ทำให้หลายบริษัทในฮ่องกงมีการปรับเปลี่ยนการทำงานที่ยืดหยุ่นในเชิงรุก และบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับการทำงานในปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังในการทำงานที่สมดุลของพนักงานด้วยการสร้าง Work-Life Balance ที่ดี

อย่างไรก็ตาม นายจ้างในฮ่องกงมีเพียง 48% เท่านั้นที่สนับสนุนการยกระดับทักษะ (Up-Skill) และการปรับทักษะใหม่ (Re-Skill) ของพนักงาน ในขณะที่กลุ่ม Gen Z มองหาโอกาสในการพัฒนาทักษะวิชาชีพสูงถึง 75% 

เกาหลีใต้

Federation of Korean Industries สภาอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ ระบุว่า บริษัท 100 อันดับแรกของเกาหลีใต้ลงทุน 5.44 ล้านล้านวอน (4.41 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ใน ESG Management หรือที่เรียกว่า แนวคิดการพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน ในปี 2565 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นสูงถึง 87.6% เพื่อลดมลพิษทางอากาศและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีต่อผู้คน

Kim Jin Sung นักวิเคราะห์อาวุโสของ Korea Corporate Governance Service ชี้ให้เห็นว่า ESG Management ในหลายบริษัทของเกาหลีใต้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นโครงการ ปัจจุบันยังมีความคล้ายกับการทำ CSR และเมื่อพิจารณาการดำเนินการ ESG Management ตามอุตสาหกรรมต่างๆ พบว่า อุตสาหกรรมของใช้ในครัวเรือน การธนาคาร และสินค้าอุปโภคบริโภคมีสัดส่วนการทำ ESG Management ที่สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น เช่น พลังงาน เหล็ก และการก่อสร้าง 

แม้ว่า ESG Management จะเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างใหม่ แต่กลุ่มบริษัทชั้นนำในเกาหลีใต้ต่างขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจด้วยการทำ ESG Management เพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น SK Group กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ได้สนับสนุนการทำ ESG Management ในระดับท้องถิ่น, Hyundai Motor Group วางกลยุทธ์ในการขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งหมด 3 ล้านคัน ภายในปี 2573, LG Group แต่งตั้งซีอีโอเป็นสมาชิกคณะกรรมการ LG ESG และ Samsung Electronics มีการจัดตั้งสำนักเลขาธิการการจัดการความยั่งยืนในหน่วยธุรกิจหลัก เป็นต้น

ญี่ปุ่น

The Asahi Shimbun รายงานว่า Fumio Kishida นายกรัฐมนตรี ได้ร่างมาตรการเพิ่มเงินชดเชยการดูแลบุตรให้กับผู้ปกครอง และผลักดันให้พนักงานชายในญี่ปุ่นได้รับสิทธิการลาเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น เพื่อสร้างความเป็นอยู่ในครอบครัวที่ดีของชาวญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตราส่วนของพนักงานชายที่ลางานเพื่อดูแลเด็กเป็น 50% ภายในปี 2568 ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ขยายการให้เงินชดเชยไปยังพนักงานฟรีแลนซ์และผู้ประกอบอาชีพอิสระด้วย

ทั้งนี้พนักงานหญิงและชายมีสิทธิได้รับเงินชดเชยการลาเพื่อดูแลบุตร 67% ของฐานเงินเดือนในช่วง 6 เดือนแรก และรับเงินชดเชย 50% สำหรับวันลาที่เหลือ โดยค่าชดเชยทั้งหมดอยู่ภายใต้การประกันแรงงานและพนักงานจะไม่ถูกหักภาษีเงินได้ ซึ่งพนักงานเพศหญิงสามารถลาเพื่อดูแลบุตรได้สูงสุด 2 ปี พนักงานเพศชายสามารถลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้สูงสุด 14 เดือน

นิวซีแลนด์

การดึงดูดและรักษาบุคลากรในปี 2023 กลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญในตลาดแรงงานของนิวซีแลนด์ เมื่อองค์กรมากกว่าหนึ่งในสาม มีการรายงานการลาออกโดยสมัครใจของพนักงานพุ่งสูงขึ้นในรอบ 5 ปี ด้วยภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบต่อพนักงานในรูปแบบต่างๆ ทำให้พนักงานมองหาการทำงานที่มีความยืดหยุ่น ช่วยลดแรงกดดันทางการเงิน และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของตัวเอง 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมาหลายบริษัทในนิวซีแลนด์จึงได้มีการกำหนดค่าจ้างและเงินเดือนสำหรับพนักงานสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องด้วยตลาดแรงงานมีการแข่งขันสูง เรียกได้ว่าเป็นศึกแห่งการแย่งชิงพนักงานที่มีศักยภาพ ทำให้หลายบริษัทในนิวซีแลนด์เริ่มมีการออกนโยบายต่างๆ มาสนับสนุนการทำงานเพื่อรักษาคนเก่งไว้ในองค์กร

นอกจากนี้ ยังมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 35,000 ตำแหน่ง ในตลาดแรงงานนิวซีแลนด์ ทำให้อัตราการว่างงานของประชากรลดลงระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม การจ้างงานจำนวนมาก แม้จะเป็นทางเลือกให้กับพนักงานมากขึ้น แต่หลายบริษัทยังต้องพิจารณาการบริหารบุคลากรอย่างรอบด้าน นอกจากจะผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในทุกปี ยังต้องพิจารณาของรางวัลเพื่อมอบให้กับพนักงานที่มีศักยภาพที่โดดเด่นอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าหลายประเทศมีรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุการณ์และวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ภาครัฐและภาคเอกชนตระหนักถึงความเป็นอยู่ของประชากรมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นหลายบริษัทในต่างประเทศเริ่มให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ตั้งเป้าหมายที่จะคัดเลือกพนักงานที่มีศักยภาพให้อยู่กับองค์กรนานขึ้น โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่มีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในทุกมิติ สิ่งสำคัญที่สุดคือเน้นสร้างความสมดุลในชีวิตการทำงานที่ดี ด้วยค่าจ้างที่เป็นธรรม ชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสม การเติบโตในอาชีพ และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

อ้างอิง : abcnews / kqed.org / thelocal.fr / fairwork.gov.au / randstad.com.hk / hrmasia.com / tokhimo.com / hrmasia / mercer

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:GenZThe Modernistฮีลใจ
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article เปิดฉากเกมล่าสุดคลั่ง! “The Childe เทพบุตรล่านรก” 27 กรกฎาคมนี้ ที่โรงภาพยนตร์
Next Article “How Do You Live?” ปัจฉิมบท (อีกครั้ง) ของ Hayao Miyazaki
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

POLITICS

ตำรวจไทยในโลกของอนิเมะ ว่าด้วยตำรวจไทยในสายตานักวาดมังงะญี่ปุ่น 

By ระวี ตะวันธรงค์
BRANDINGBUSINESS

“สำนักพิมพ์ Penguin” ท้าทายสังคม ทำหนังสือดีให้เข้าถึงคนทุกชนชั้น

By ระวี ตะวันธรงค์
EditorINSIGHTSOCIAL

สิ้นเจ๊เกียว สุจินดา เชิดชัย ปิดตำนานเจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย

By Srawut
BUSINESSPOLITICS

“เงินดิจิทัล 1 หมื่น” นโยบายแจกเงินฟรี ที่อาจนำไปสู่หนี้สาธารณะ

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.