The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / BUSINESS / สำรวจงาน “สัปดาห์หนังสือ 66” กำแบงก์พันมากี่ใบถึงจะพอช้อปหนังสือกลับบ้าน ?
BUSINESS

สำรวจงาน “สัปดาห์หนังสือ 66” กำแบงก์พันมากี่ใบถึงจะพอช้อปหนังสือกลับบ้าน ?

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 19 ต.ค. 2023 15:43
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

ผู้คนทยอยเดินทางมารอที่หน้าฮอลล์ 5 – 7 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ พร้อมถือถุงผ้า กระเป๋าย่ามที่ข้างในว่างเปล่า บ้างก็สะพายกระเป๋าเป้บางฟีบ บ้างก็นำรถเข็นหรือกระเป๋าเดินทางล้อลาก มายืนออบริเวณประตูทางเข้าก่อนเวลาเปิดให้เข้าชมงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ 2566 ที่ในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงถัดมาพื้นที่ในกระเป๋าเปล่านี้จะถูกจับจองโดยหนังสือมากมาย 

มหกรรมหนังสือระดับชาติ หรือที่เราเรียกกันติดปากจนชินหูว่า งานหนังสือ งานประจำปีที่เสมือนเป็นหมุดหมายสำคัญที่เหล่าสำนักพิมพ์จะได้ใช้พื้นที่เปิดตัวหนังสือใหม่ ขนทัพนักเขียนนักแปลมาพบปะผู้อ่าน ขณะเดียวกันนักอ่านก็ได้จับจองหนังสือในราคาโปรโมชั่น มีโอกาสพบเจอหนังสือบางเล่มที่อาจขาดตลาดไปแล้วจากร้านหนังสือทั่วไป แต่กลับมาปรากฏให้เห็นภายในงาน เป็นโมงยามมหัศจรรย์ที่ได้เดินทอดน่องไล่ดูหนังสือไปทีละบูธ ท่ามกลางหนังสือมากมายตลอดทางเดินซ้ายขวาที่กำลังเพรียกหาเจ้าของ เรื่องราวนับล้านเล่มที่รอให้ผู้คนเปิดอ่าน หรือนำขึ้นไปประดับบนชั้นหนังสือที่บ้าน 

ความมหัศจรรย์ของหนังสือ สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอายุหลักพันปี ยังคงต้องมนต์ผู้คนอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย การเดินงานหนังสือจึงเป็นกิจกรรมประจำปี ที่หลายคนต่างตั้งตารอคอย แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้ก็คือ ประเด็นเรื่องราคาหนังสือที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากว่าแพงขึ้น จากเมื่อก่อนแบงก์พันหนึ่งใบอาจพาหนังสือกลับบ้านได้ถึง 5 – 6 เล่ม แต่ปัจจุบันมากสุด ในกรณีนิยายแปล อาจจะพาหนังสือกลับบ้านได้เต็มที่จริง ๆ แค่ 3 เล่มเท่านั้น

มีอะไรให้อ่านบ้างในบทความนี้?

Toggle
  • งานหนังสือปีนี้ นักอ่านแต่ละคนพกเงินมาเท่าไร ?
  • เปิดมุมมองสำนักพิมพ์รายย่อย กับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น
  • ส่องนโยบายส่งเสริมตลาดหนังสือ

งานหนังสือปีนี้ นักอ่านแต่ละคนพกเงินมาเท่าไร ?

จากการพูดคุยกับนักอ่านที่มางานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 พบว่าส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนจะตั้งโควตาสำหรับการซื้อหนังสืออยู่ที่ 1,000 บาท เต็มที่ไม่เกิน 2,000 บาท โดยผู้ซื้อรายหนึ่งอายุ 25 ปี ซึ่งเป็นคอหนังสือวิชาการแนวการเมือง บอกกับทาง The Modernist ว่าตนนั้นสนใจหนังสือวิชาการเป็นอย่างมาก มักจะมางานหนังสือเกือบทุกครั้ง รวมไปถึงงานหนังสือย่อย ๆ ที่จัดขึ้นในระหว่างปี โดยงานหนังสือที่จัดขึ้นครั้งนี้ ตนได้หนังสือวิชาการทางการเมืองไปทั้งหมด 4 เล่ม ในราคาประมาณ 1,600 บาท 

ขณะที่เยาวชนกลุ่มหนึ่ง อายุ 16 ปี จำนวน 3 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระหว่างชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้เดินทางมางานหนังสือในช่วงสายของวัน ระบุว่า ตั้งวงเงินมาซื้อหนังสือจำนวน 1,000 บาท แต่ก็เผื่องบเอาไว้ไม่ให้เกิน 2,000 บาท โดยได้หนังสือกลับไปจำนวน 5 เล่มด้วยกัน ซึ่งตนรู้สึกเลยว่าช่วงนี้หนังสือมีราคาแพงขึ้น แต่ก็เข้าใจดีถึงสถานการณ์ต้นทุนหนังสือที่สูงไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตีพิมพ์หรือค่าหมึกต่าง ๆ 

ส่วนนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบมาหมาด ๆ คนหนึ่งเปิดเผยว่างานหนังสือคราวนี้ได้ลิสต์รายการที่อยากได้มาเรียบร้อยแล้ว เป็นนิยายแปลจีนทั้งหมด โดยได้หนังสือกลับบ้านไปทั้งสิ้น 4 เล่ม ราคารวมประมาณ 1,500 บาท ซึ่งงานหนังสือครั้งที่ผ่านมาที่เพิ่งจัดไปเมื่อต้นปี 2566 ใช้เงินซื้อหนังสือไปทั้งสิ้นประมาณ 4,000 บาท ได้หนังสือมาทั้งหมด 8 เล่ม คละแนวกันไป ทั้งนวนิยาย หนังสือรวมรูปภาพ หรือ Photobook และวรรณกรรมแปลเล่มเล็ก ๆ ขณะที่เพื่อนซึ่งมาด้วยกับก็เล่าให้ฟังว่า ตนชอบอ่านการ์ตูน หรือมังงะ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมารู้สึกได้เลยว่าราคาขยับสูงขึ้น จากสมัยอยู่มัธยมต้น ราคาต่อเล่มจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 บาท แต่ปัจจุบัน 90 บาท คือราคาขั้นต่ำของมังงะหนึ่งเล่ม บางเล่มราคาก็ออกสตาร์ทอยู่ที่ 140 บาท สำหรับบางเล่มที่มีลิขสิทธิ์แพงราคาจะทะยานพุ่งไปถึง 170 – 190 บาทเลยทีเดียว สำหรับการมางานหนังสือรอบนี้ ตั้งใจมาซื้อมังงะโดยเฉพาะ โดยพาการ์ตูนเล่มโปรดกลับไปได้จำนวน 15 เล่ม ด้วยงบประมาณ 2,000 กว่าบาท 

ราคาหนังสือที่แพงขึ้นกับจำนวนหนังสือเล่มที่ผู้อ่านสามารถซื้อได้ลดลงนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุใหญ่มาจาก อัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่ไม่สอดรับกับรายได้ของคนไทย โดยอัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศของไทยที่ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 328 บาท ถึง 354 บาทต่อวัน โดยขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด นั่นหมายความว่าค่าแรงวันหนึ่งอาจซื้อหนังสือได้เพียงแค่ 1 เล่ม 

สำหรับอัตราเงินเฟ้อของไทยก็ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะยิ่งเงินเฟ้อมากขึ้นแถมกินระยะเวลายาวนานก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนราคาสินค้าต่าง ๆ  ที่ขยับขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่มาจากปัจจัยภายนอกอย่างราคาน้ำมัน ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด เนื่องจากน้ำมันถือเป็นต้นทุนพื้นฐานทุนอย่างในทุกอุตสาหกรรมการผลิตและเป็นต้นทุนที่แฝงเข้าไปอยู่ในรูปแบบของค่าขนส่ง ซึ่งในปี 2565 ระดับเงินเฟ้อของประเทศไทยสูงขึ้น 6.08% เป็นการปรับตัวสูงสุดในรอบ 24 ปี จากราคาพลังงานที่ตึงตัวมากขึ้น

เปิดมุมมองสำนักพิมพ์รายย่อย กับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น

เพราะราคาหนังสือสัมพันธ์กับภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ The Modernist ได้มีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของสำนักพิมพ์วรรณกรรมแปลแห่งหนึ่งที่มาออกบูธในงานหนังสือถึงเรื่องต้นทุนการผลิตและสาเหตุที่ทำให้ราคาหนังสือปรับตัวสูงขึ้น โดยจากการพูดคุยพบว่าต้นทุนการผลิตหนังสือมีหลายอย่างที่เข้ามาพัวพันเป็นจำนวนมาก เริ่มตั้งแต่ค่าลิขสิทธิ์ ค่านักแปล ค่าพิสูจน์อักษร ค่าออกแบบปก 

“ต้นทุนค่าทำปก เรทเราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ศิลปินผู้ออกแบบ มีตั้งแต่ 5,000 บาทต่อหนึ่งปก ไปจนถึง 50,000 บาทต่อปกก็มี สำหรับศิลปินที่มีชื่อเสียง ส่วนเรื่องการทำพิสูจน์อักษรก็มีรายละเอียดที่ลึกลงไปอีก สำนักพิมพ์บางราย ใช้นักพิสูจน์อักษรมากถึง 3 คน ต่อหนึ่งเล่ม เพื่อความละเอียดถี่ถ้วน เพราะ 6 ตา ย่อมดีกว่า 2 ตาอยู่แล้ว ซึ่งการมีพิสูจน์อักษรเพียงคนเดียวอาจมีความเสี่ยงที่คำผิดอาจหลุดลอดสายตาออกไปได้”

อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้ถือเป็นต้นทุนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับต้นทุนค่าจัดพิมพ์ เมื่อกระบวนการแปล จัดรูปเล่ม ออกแบบปกเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือการส่งสเปคหนังสือที่มีให้กับโรงพิมพ์ ว่าจะใช้กระดาษชนิดไหน เป็นปกแข็ง หรือปกอ่อน เย็บกี่ หรือไสกาว ราคาก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งการเป็นสำนักพิมพ์ขนาดเล็กการส่งหนังสือเพื่อจัดพิมพ์จะไม่ได้เห็นรายละเอียดต้นทุนยิบย่อยต่าง ๆ เพราะจะทราบแค่ราคารวมทั้งหมด แต่จากประสบการณ์ที่ครั้งหนึ่งเคยทำงานอยู่ในสำนักพิมพ์ใหญ่ ก่อนปลีกตัวออกมาทำสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง เจ้าตัวกล่าวว่าต้นทุนการจัดพิมพ์หนังสือต่อเล่มของสำนักพิมพ์ใหญ่จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าสำนักพิมพ์รายเล็ก

“ในสำนักพิมพ์ใหญ่เขาจะมีฝ่ายผลิต แล้วฝ่ายผลิตก็จะเป็นผู้สั่งกระดาษเอง ส่วนโรงพิมพ์ก็จะเป็นผู้เตรียมการเข้าเล่มและกระบวนการอื่น ๆ ตามมา ซึ่งสำนักพิมพ์เจ้าใหญ่เขาสามารถสั่งกระดาษเข้ามาเป็นล็อตขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากมีจำนวนการพิมพ์ที่เยอะ ทำให้ได้ราคากระดาษที่ถูกกว่า เหมือนเวลาเราซื้อของยกแพ็ค ซึ่งแน่นอนว่าได้ราคาดีกว่าการซื้อปลีกอยู่แล้ว หากจะกล่าวให้เห็นภาพชัดขึ้นไปอีกก็คือสำนักพิมพ์รายย่อยเป็นการซื้อของแบบชิ้นเดียว ส่งผลให้ต้นทุนต่อเล่มจึงสูงกว่าเจ้าใหญ่ที่เขาสามารถสั่งซื้อของมาทีเดียวได้เป็นโกดัง” 

นอกจากนี้เจ้าของสำนักพิมพ์รายนี้ยังเล่าต่ออีกว่า สิ่งที่ดันเพดานให้ราคาหนังสือสูงขึ้นก็คือ ค่าสายส่ง ที่จะกระจายหนังสือไปตามร้านหนังสือต่าง ๆ ซึ่งก็จะถูกหักไปราว ๆ 42% – 45% จากราคาหนังสือ กลายเป็นปัจจัยการผลิตที่ทำให้ต้นทุนหนังสือต่อเล่มแพงขึ้น ทำให้สำนักพิมพ์ขนาดเล็ก บางเจ้าเริ่มที่จะหันมาขายผ่านหน้าร้านออนไลน์เอง ประกอบกับบางรายเลือกที่จะไม่ส่งสายส่งก็เพราะไม่ได้พิมพ์หนังสือออกมาเยอะ จึงไม่คุ้มเสีย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังตามมาเป็นต้นทุนอีกอย่างก็คือค่าขนส่งเอกชนที่ปรับราคาขึ้น บางเจ้าค่าจัดส่งอยู่ที่ 70 – 80 บาทต่อกล่องเลยทีเดียว  

“การที่หนังสือแพงขึ้น ผมว่ามันขึ้นอยู่กับค่าครองชีพด้วย เป็นไปไม่ได้เลยที่หนังสือจะถูก กระบวนการผลิตมันก็ต้องใช้คน มีเรื่องค่าแรงเข้ามาเกี่ยว โรงพิมพ์เองก็มีค่าใช้จ่ายอย่างค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าขนส่ง เงินเดือนพนักงาน ทุกอย่างมันกระทบกันไปหมด ปัจจุบันพิมพ์หนังสือเรื่องหนึ่งพิมพ์ 2,000 ก็หรูแล้ว หืดขึ้นคอกว่าจะขายหมด ทุกวันนี้สิ่งที่ยังทำให้ตัดสินใจเดินหน้าทำสำนักพิมพ์ต่อก็คือใจรักล้วน ๆ ” 

เจ้าของสำนักพิมพ์รายนี้ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ตอนนี้เริ่มมีความหวังกับวงการหนังสือไทยมากขึ้น จากนโยบาย Soft Power ของรัฐบาลที่มีนโยบายส่งเสริมวงการหนังสือไทย โดยจะลดภาษีกระดาษเป็น 0% ซึ่งตนมองว่าจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวลดลง

ส่องนโยบายส่งเสริมตลาดหนังสือ

การส่งเสริม Soft Power ในส่วนส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังสือไทย มีหลัก ๆ อยู่ 5 ข้อด้วยกัน โดยมีนายจรัญ หอมเทียนทอง กรรมการภาคเอกชน เป็นตัวแทนผู้ขับเคลื่อน Soft Power สาขาหนังสือ ซึ่งนโยบายที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

  1. ลดภาษีมูลค่าเพิ่มกระดาษ 0%  ลดภาษีมูลค่าเพิ่มกระดาษและภาษีอุปกรณ์ศิลปะต่างๆ เหลือ 0% เพื่อลดต้นทุนในการพิมพ์หนังสือ
  2. ปลดปล่อยทุกจินตนาการ  หยุดตีกรอบ ไม่ปิดกั้นเสรีภาพ เลิกแบนหนังสือ ระเบิดทุกพลังสร้างสรรค์
  3. ขยายห้องสมุดทั่วประเทศ  พัฒนาห้องสมุดและขยายห้องสมุดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงหนังสือได้ถ้วนหน้า
  4. กองทุนพัฒนาหนังสือ นักเขียน นักแปล สำนักพิมพ์ ร้านหนังสือ สามารถเข้าถึงทุนได้ง่ายขึ้นโดยไม่ถูกกีดกัน
  5. แปลหนังสือไทยสู่สายตาทั่วโลก  สนับสนุนทุนการแปลหนังสือไทยเป็นภาษาต่างประเทศ และส่งเสริมการส่งออกหนังสือไทยสู่สายตาคนทั่วโลก

อ้างอิง : ptp / bangkokbiznews / workpointtoday / mol

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:BookExpo2023BookExpoThailand2023growthThe Modernistงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่28งานหนังสือ66สำนักพิมพ์หนังสือ
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article ป้ายยาหนังสือการเมือง ครบจบจาก “งานหนังสือ 2566”
Next Article มรดกความขัดแย้ง “อิหร่าน” จากราชวงศ์ปาห์ลาวีถึงการปฏิวัติอิสลาม สู่วันแอนตี้ชาติตะวันตก
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

Editor

เมื่อ ‘กรุงเทพ’ กลับมา ‘กลางแปลง’ ให้ภาพยนตร์คลาสสิกคึกคักอีกครั้ง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

Beauty Stand Up! ส่องไฮไลต์โลกแต่ละยุคสมัยจาก “คำถามนางงาม”

By adisak.mha
INSIGHTPOLITICS

“สุชาติ ชมกลิ่น” เราคือเพื่อนกัน ว่าแต่ท่านคือเพื่อนใคร?

By ระวี ตะวันธรงค์
BUSINESS

ผู้เชี่ยวชาญร่วมแชร์ประสบการณ์การจัดการและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในงาน “JCSSE 2023”

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.