The Insight NewsThe Insight NewsThe Insight News
  • More
  • The Insight News
Font ResizerAa
Font ResizerAa
The Insight NewsThe Insight News
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
  • TANK
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
  • INSIGHT
  • REPORT
  • IN TREND
  • MARKETING
  • WORLD
  • IN PHOTO
  • CALENDAR
  • LIFETIME
  • TALK
    • CASE STUDY
    • SOCIAL
  • TANK
    • MOTION PICTURE 101
    • TIME ON FEET
    • ชาวกอง
    • ร่วมด้วยช่วยแกง
    • ศึกษานารี
    • เจริญหูเจริญตา
    • ไดโนสอง
    • วัดดูยูโนว
  • Blog
  • Contact
  • My Feed
  • My Interests
  • My Saves
  • History
  • The Insight News
  • RATING
Have an existing account? Sign In
Follow US
© 2022 Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.
HOME / BUSINESS / “Lonely Economy“ เปย์หนัก-จ่ายไว สไตล์ “เศรษฐกิจคนโสด”
BUSINESSMARKETING

“Lonely Economy“ เปย์หนัก-จ่ายไว สไตล์ “เศรษฐกิจคนโสด”

ระวี ตะวันธรงค์
Last updated: 9 ต.ค. 2023 11:18
ระวี ตะวันธรงค์
Share
SHARE

ไซส์ใหญ่หรือหีบห่อที่มีสินค้าจำนวนมาก เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือที่เชื่อมโยงผู้คนที่ถูกเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์และเขตแดนรัฐเข้าด้วยกันอย่างแนบสนิท คงจะไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่ามนุษยชาติอยู่ในยุคที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับในอดีต แต่ในอีกแง่หนึ่ง การรุดไปข้างหน้าของสังคมโลกที่มีตัวแปรมาปะทะหลากหลายมิติเหลือเกิน ทำให้โฮโมเซเปียนส์อย่างพวกเรารู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น แม้ทางกายภาพจะเชื่อมต่อกันง่าย แต่ทางใจเรากลับเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน 

จนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินคำว่า ‘Lonely Economy’ มากขึ้น ซึ่งเป็น เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ บ้างก็เรียกว่า ‘เศรษฐกิจคนโดดเดี่ยว’ บ้างก็เรียกว่า ‘เศรษฐกิจคนโสด’ แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร แรงขับสำคัญที่ทำให้เกิดตลาดใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ ‘ความเหงา’ ที่ไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสด ก็เป็นมวลอารมณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนบนโลกอันว้าเหว่นี้ ในแง่ธุรกิจจึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการและนักการตลาด ในการสร้างเม็ดเงินให้กับธุรกิจของตนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีเทรนด์นี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมร่วมสมัยที่น่าสนใจอีกด้วย

ที่มา : krungsri

‘คนโสด’ จ่ายหนัก-จ่ายเร็ว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ประชากรหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคน Gen Y, Gen Z และกลุ่มคนที่ผ่านการหย่าร้าง มีอัตราการครองตนเป็นโสดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศไทยเอง สาเหตุหลัก ๆ หนีไม่พ้นเรี่องแรงกดดันจากการทำงาน ภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นจนไม่อยากจะแบกภาระเพิ่ม หรือบางกลุ่มมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้น จนสามารถดูแลตัวเองได้  โดยไม่ต้องให้คู่สมรสเลี้ยงดู อีกทั้งคนรุ่นใหม่ยังมองว่าการแต่งงานและการมีลูกไม่ใช่บรรทัดฐานทางสังคมอีกต่อไป

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้พฤติกรรมคนกลุ่มนี้ มีการตัดสินใจเร็วและกล้าใช้จ่าย แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงโปรโมชั่นหรือลดราคา หากสินค้าหรือบริการมีความสอดคล้องกับความต้องการก็พร้อมที่จะเปย์ทันที  โดยเฉพาะกลุ่มคนโสดในวัยทำงานที่มีอายุยังไม่สูงมากนัก เนื่องจากมีการวางแผนทางด้านการเงินเพื่อความมั่นคงของชีวิตไม่เข้มงวดมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่แต่งงานแล้ว ขณะที่กลุ่มคนโสดที่เริ่มมีอายุมากขึ้น เป็นกลุ่มที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามคนโสดกลุ่มที่เริ่มมีอายุจะมีความรอบคอบในการวางแผนใช้ชีวิตและแผนทางการเงินมากกว่ากลุ่มคนโสดที่มีอายุไม่มาก 

ในปี 2562 คนโสดในไทยมีจำนวนประมาณ 15.2 ล้านคน และคาดว่าจะประชากรกลุ่มนี้จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง มีเม็ดเงินการใช้จ่ายเฉลี่ย 7,584 บาทต่อคนต่อเดือน และจะมีการใช้จ่ายเพื่อสินค้าและบริการต่างๆ รวมเป็นเม็ดเงินทั้งสิ้นประมาณ 1.4 ล้านล้านบาทต่อปี

ที่มา : gunnercooke

‘ไม่โสด’ แต่ ‘เหงา’ ก็จ่ายหนักเหมือนกัน

สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU เปิดเผยงานวิจัย Lonely in the Deep – เจาะลึกตลาดคนเหงา ซึ่งชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมกลุ่มคนโสดขี้เหงาว่า คนที่มีรายได้มากสามารถจัดการกับความเหงาได้ดีกว่าคนรายได้น้อย เพราะสามารถใช้จ่ายในการคลายเหงาได้ ส่วนคนรายได้น้อยมีภาระทางการเงินมาก จะยิ่งเหงามาก เพราะเงินเป็นปัจจัยหลัก ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการบางอย่างได้ เช่น ท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ก่อให้เกิดความเหงาทั้งสิ้น ที่น่าสนใจไปกว่านั้น CMMU ยังระบุต่ออีกว่า คนมีแฟนต่างก็เหงาเช่นกัน สาเหตุคือแฟนของตนเองไม่มีเวลาให้ เมื่อเห็นคู่รักอื่นทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งตอกย้ำความเหงาขึ้นไปอีก จึงอาจกล่าวได้ว่าต่อให้มีคู่ ความเหงาก็สามารถเข้ามาเป็นเจ้าเรือนในใจได้ และก็ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยที่น่าจะมีแนวโน้มใช้จ่ายมากขึ้น

ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวส่งอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและการบริโภคของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในการผลิตสินค้า บริการ หรือออกแคมเปญส่งเสริมการขาย

มัดรวมธุรกิจน่าสนใจของ ‘Lonely Economy’

1. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง 

ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้าที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยง มาเดินเล่นได้ เช่นเดียวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่หลายโครงการนิยมสร้างคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้เพิ่มมากขึ้น เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า ผู้คนที่อยู่คนเดียวหรือมีความเหงาเป็นเจ้าเรือน มักจะเลี้ยงสัตว์ ทำให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตตาม จนส่งผลให้อุตสาหกรรมอื่น ๆ ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนยุคนี้ โดยธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ ได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ธุรกิจการให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาล คลินิก สถานบริการรับฝากเลี้ยง โรงแรมที่พัก สปา 

2. ธุรกิจท่องเที่ยว

เทรนด์เที่ยวคนเดียวไปเองได้ เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2559 และจากการรีวิวการท่องเที่ยวคนเดียวจากในโซเชียลมีเดียต่าง ๆ จนเมื่อโลกเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เทรนด์การเที่ยวคนเดียวก็ยิ่งได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอีก สวนทางกับสมัยก่อน ที่การท่องเที่ยวมักนิยมเป็นกรุ๊ปทัวร์ ธุรกิจท่องเที่ยวจึงควรใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ความต้องการของบุคคลมากขึ้น เสนอโปรโมชันพิเศษ เช่น แพ็กเกจท่องเที่ยวเดินทางคนเดียว  

3. ธุรกิจร้านอาหาร

แต่ก่อนธุรกิจร้านอาหารมักถูกออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม หรืออย่างน้อยก็เป็นที่นั่งสำหรับ 2 คนขึ้นไป แต่ตอนนี้การรับประทานอาหารคนเดียวเริ่มมีมากขึ้น ร้านอาหารต่าง ๆ จึงเริ่มปรับตัวและพัฒนาการให้บริการลูกค้าที่มา

รับประทานอาหารคนเดียว อย่างร้านชาบูต่าง ๆ ที่หันมาจัดสรรแบ่งโซนเพื่อรองรับลูกค้าที่มาคนเดียวมากขึ้น หรือร้านราเมง บางร้านที่ใช้เป็นโต๊ะเคานต์เตอร์ยาว มีที่กั้นเปิดปิดเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว

4. ธุรกิจที่พักอาศัย

เทรนด์การอยู่คนเดียวเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านที่พักอาศัย และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การออกแบบที่พักนอกจากคำนึงเรื่องความสะดวกสบายแล้ว อาจจะต้องดีไซน์ให้ตอบโจทย์การอยู่คนเดียวและง่ายต่อการดูแล

นอกจากนี้ควรใส่ใจการทำพื้นที่ส่วนกลางให้น่าใช้ เช่นการสร้าง Co-working Space ให้เป็นพื้นที่สำหรับการเปลี่ยนที่ทำงานของผู้อยู่อาศัย การมีห้องประชุม อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 

5. ธุรกิจสินค้าขนาดเล็ก

สินค้าอุปโภค-บริโภค ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ประกอบการอาจต้องออกแบบให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม หรือมีจำนวนชิ้นต่อหน่วยลดลง ส่วนการทำโปรโมชั่น 1 แถม 1 อาจไม่สามารถใช้ได้กับคนกลุ่มนี้ ตรงข้ามกับการจับตลาดครอบครัวใหญ่ที่ต้องการสินค้า

อ้างอิง : The Michigan Daily / TPSO Journal / krungsi / kasikorn / Amarin TV / Creative Thailand

  • FacebookFacebook
  • XTwitter
  • LINELine
TAGGED:businesseconomygrowthLonely EconomyThe Modernistคนโสดความเหงาธุรกิจธุรกิจคนโสดเศรษฐกิจ
Share This Article
Email Copy Link Print
Previous Article Glenfiddich ‘THE WHERE NEXT CLUB’ ร่วมเปิดเผย Single Best Quality ของคุณคิด คณชัย ในงาน “Unveiling Leather”
Next Article “ละมุน” หรือ “บอบบาง” ส่องสภาวะ Soft Power ไทย เราขาย “ใคร” กันแน่?
ไม่มีความเห็น

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

The Insight News

ศูนย์รวมข่าวสารเชิงลึก ที่ยึดมั่นในความจริง สร้างมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม
FacebookLike
XFollow
InstagramFollow
LinkedInFollow
MediumFollow
QuoraFollow
- Advertisement -
Ad image

You Might Also Like

INSIGHTPOLITICS

“หมอพรทิพย์” สายวิทย์ สู่ขิตการเมือง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

‘IKEA’ การทำงานที่โอบอุ้มทุกความหลากหลาย มัดใจ LGBTQ+

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

เมื่อ ‘กรุงเทพ’ กลับมา ‘กลางแปลง’ ให้ภาพยนตร์คลาสสิกคึกคักอีกครั้ง

By ระวี ตะวันธรงค์
Editor

“28” อัลบั้มของเด็กผู้เรียนรู้ที่จะเติบโต จาก “Three Man Down”

By ระวี ตะวันธรงค์
The Insight News
Facebook Twitter Youtube Rss Medium

About US


BuzzStream Live News: Your instant connection to breaking stories and live updates. Stay informed with our real-time coverage across politics, tech, entertainment, and more. Your reliable source for 24/7 news.
Top Categories
Usefull Links
© Foxiz News Network. Ruby Design Company. All Rights Reserved.